แพทย์เผยกะเทยฉีดโบท็อกหมอเถื่อน ติดเอชไอวีเหตุใช้เข็มร่วมกัน

แพทย์เผยกะเทยฉีดโบท็อกหมอเถื่อน ติดเอชไอวีเหตุใช้เข็มร่วมกัน

แพทย์กาชาดฯ เผยสาวประเภทสองฉีดโบท็อกหมอเถื่อน ทำติดเอชไอวีเหตุใช้เข็มร่วมกัน สภากาชาดจะดูแลกลุ่มคนข้ามเพศโดยเฉพาะ

ในงานประชุมเสวนาระหว่างผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพแก่คนข้ามเพศกับผู้นำชุมชนคนข้ามเพศ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่โรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท กรุงเทพฯ 

พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกัน ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัญหาหนึ่งที่พบมากในกลุ่มเพศทางเลือกคือ พบว่ามีการใช้ฮอร์โมนมากถึง 90% บางคนมีการใช้เข็มฉีดร่วมกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อเอชไอวีได้ รวมไปถึงปัญหาการใช้ฮอร์โมนเกินขนาด ศูนย์สุขภาพแทนเจอรีน จึงมีการให้บริการฉีดฮอร์โมนแก่คนข้ามเพศด้วย ซึ่งถือเป็นบริการที่คนข้ามเพศมารับบริการมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริมความงามในส่วนของการฉีดโบท็อกซ์ด้วย

เนื่องจากปัจจุบันพบว่าสาวประเภทสองมีการติดเชื้อเอชไอวีจากการเสริมความงามจากหมอเถื่อน ซึ่งจะมีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ถือว่าเป็นการให้บริการเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากการใช้เข็มฉีดยาอีกช่องทางหนึ่ง และในอนาคตอาจจะขยายบริการฉีดฟิลเลอร์ด้วย แต่ที่จะขยายอย่างจริงจังคือ การให้มีจิตแพทย์มาคอยดูแลปรับสภาพจิตใจ เพราะกลุ่มเพศทางเลือกมักมีปัญหาซึมเศร้า เครียด และใช้สารเสพติด แต่คนไม่ค่อยนึกถึง

“ อีกปัญหาที่พบบ่อยในกลุ่มคนข้ามเพศ หากเป็นชายข้ามเพศหรือแปลงเพศเป็นหญิง จะเจอปัญหาเรื่องการดูแลหลังผ่าตัดอย่างต่อเนื่องได้ไม่ดีพอ เช่น มีไหมตกค้าง หรือมีขนขึ้นด้านใน ทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นแผล หรือช่องคลอดใหม่ตีบตัน รวมถึงเจอโรคหูดในช่องคลอดใหม่ เพราะเนื้อเยื่อช่องคลอดใหม่ทำมาจากหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย ซึ่งเพศชายทุกคนจะมีเชื้อเอชพีวีในการก่อโรคอยู่แล้ว ซึ่งจากการตรวจอาสาสมัคร 10 รายพบว่า ร้อยละ 20 มีเชื้อเอชพีวีชนิดก่อมะเร็ง ส่วนปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มหญิงข้ามเพศเป็นชาย หากมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงมักไม่ค่อยมีปัญหา แต่หากข้ามเพศมาแล้วมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอดเดิมหรือทางทวารหนักก็มีความเสี่ยงในการติดโรคทางเพศสัมพันธ์เหมือนผู้หญิงและกลุ่มชายรักชายทั่วไป ซึ่งปัญหาคือเมื่อข้ามเพศเป็นชายแล้วทำให้ไม่กล้าไปหาสูติแพทย์ ซึ่งศูนย์สุขภาพฯ จะให้บริการครอบคลุมในเรื่องเหล่านี้”พญ.นิตยากล่าว

พญ.นิตยา กล่าวอีกว่าสภากาชาดไทยได้มีการเปิดศูนย์สุขภาพชุมชนแทนเจอรีนขึ้น เมื่อ พ.ย. 2558 เพื่อให้บริการแก่กลุ่มคนข้ามเพศโดยเฉพาะ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ยังมีปัญหาเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จำนวนมาก เช่น เอชไอวี เอชพีวี หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส หูด เป็นต้น แต่ยังไม่มีสถานพยาบาลใดที่ให้บริการและดูแลแบบระยะยาวแก่กลุ่มเพศทางเลือกและคนข้ามเพศโดยเฉพาะ ซึ่งศูนย์สุขภาพฯ แห่งนี้ จะให้บริการแบบวันสต็อปเซอร์วิส ให้บริการตรวจคัดกรอง รักษา และป้องกันโรคในระยะยาวแบบครบวงจร เช่น การวัดระดับฮอร์โมน การฉีดฮอร์โมน การตรวจค่าการทำงานของตับ ไต บริการตรวจโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ การตรวจคัดกรองระยะก่อนมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ทวารหนัก ช่องคลอด และช่องคลอดใหม่ในกลุ่มชายแปลงเพศเป็นหญิง รวมถึงโรคที่จะเกิดขึ้นหลังจากการแปลงเพศ ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มาราว 8 เดือน มีผู้เข้ารับบริการแล้วกว่า 400 คน