สมองเสื่อม! บอระเพ็ดช่วยบรรเทาได้

สมองเสื่อม! บอระเพ็ดช่วยบรรเทาได้

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรศึกษาวิจัยเถาบอระเพ็ดรสขมจัด พบว่าช่วยเยียวยาความผิดปกติทางด้านอารมณ์และจิตใจ ภาวะย้ำคิดย้ำทำจากภาวะสมองเสื่อม

บอระเพ็ด (Tinospora Crispa (L.) Micrs ex Hook.f.et Thoms) เป็นไม้เลื้อย พบได้ตามป่าดิบแล้ง เป็นสมุนไพรไทยมีสรรพคุณเป็นยามากมาย โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ทำยา ก็คือ เถาเพสลาก ซึ่งมีลักษณะไม่แก่หรืออ่อนเกินไป และมีรสชาติขมจัด ส่วนที่เป็นเถาแก่จะแตกแห้งรสเฝื่อนไม่ขม หรือถ้าอ่อนเกินไปก็จะมีรสไม่ขมมากนัก บอระเพ็ด เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงร่างกาย ทำให้เจริญอาหาร ซึ่งเป็น Bitter Tonic ที่คนไทยใช้กันมานาน 

สารสกัดจากบอระเพ็ด ชื่อ columbamine เป็นสารกลุ่มอัลคาลอยด์ ที่มีงานวิจัยพบว่า สามารถยับยั้งฤทธิ์ของเอ็นไซม์ชื่อ acetyl cholinesterase ได้สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับยาแผนปัจจุบัน คือ Physostigmine (บอระเพ็ดมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ดังกล่าว มากกว่ายาแผนปัจจุบันประมาณ 50%) ซึ่งการยับยั้งเอนไซม์ acetyl cholinesterase เป็นเป้าหมายสำคัญของการเป็นยารักษาผู้ป่วยสมองเสื่อม (Senile dementia), ผู้ป่วยความจำเสื่อม (Alzheimer’s diseases), โรคพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อมร่วมด้วย (Parkinson’s disease with dementia, PDD) อาการเซ หรือ ภาวะกล้ามเนื้อเสียสหการ (Ataxia) และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myasthenia gravis) 

การยับยั้งเอนไซม์ acetyl cholinesterase ทำให้สารสื่อประสาทในสมองที่ชื่อ acetylcholine ไม่ถูกทำลาย ซึ่งหน้าที่ของ acetylcholine เป็นสารเคมีในสมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ และกระบวนการเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย รวมทั้งกล้ามเนื้อเรียบของอวัยวะภายใน 

การรักษาด้วยบอระเพ็ดในผู้ป่วยพาร์กินสัน สอดคล้องกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่มีการค้นพบในงานวิจัย โดยเห็นผลการรักษาชัดเจนในด้านภาวะการรู้คิด พฤติกรรมโดยรวม อาการทางประสาทดีขึ้นในภาวะสมองเสื่อมที่พบในผู้ป่วยพาร์กินสัน เนื่องจากโรคพาร์กินสันเมื่อมีการดำเนินของโรคมานาน 5-10 ปี จะเกิดความเสื่อมของสมองในส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดความผิดปกตินอกเหนือจากการเคลื่อนไหว เช่น การนอน ความผิดปกติทางด้านอารมณ์และจิตใจ ภาวะย้ำคิดย้ำทำ อาการซึมเศร้า วิตกกังวล เป็นต้น 

นอกจากนี้ บอระเพ็ดยังมีฤทธิ์อื่นๆ ที่ส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม และพาร์กินสัน คือ มีฤทธิ์ลดอักเสบ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ในปัจจุบันเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพยาธิสภาพโรค 
อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลในทางคลินิก หรือการศึกษาในผู้ป่วยกลุ่มโรคดังกล่าวอย่างเป็นระบบ แนะนำหากสนใจใช้บอระเพ็ด ควรใช้ในแง่เสริมการรักษาควบคู่กับยาแผนปัจจุบันเป็นหลัก และควรมีช่วงที่หยุดยาบ้าง เช่น แนะนำใช้ยาเดือนเว้นเดือน หรือ 2-3 เดือน เว้น 1 เดือน 

ขนาดรับประทานอาจมีการปรับตามสภาวะผู้ป่วยแต่ละคน โดยแนะนำขนาดเริ่มต้นที่ 1 แคปซูล ก่อนอาหาร 2 มื้อ เช้าและเย็น อาจปรับลด หรือเพิ่มได้เป็น 3 มื้อ เช่น กรณีที่ผู้ป่วยมีความดัน หรือระดับน้ำตาลที่ลดต่ำมากเกินไป ควรลดขนาดยา หรือลดจำนวนมื้อยาลง เนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่ใช้บอระเพ็ดแล้วพบว่า ความดันโลหิต หรือน้ำตาลในเลือดลดต่ำเกินไป จากฤทธิ์ของบอระเพ็ด หากรับประทานแบบสดแนะนำให้รับประทานวันละ 1 ข้อนิ้วชี้ก็เพียงพอ 

ที่สำคัญ ห้ามใช้บอระเพ็ดในผู้ที่มีภาวะเอนไซม์ตับบกพร่อง หรือผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับ หรือโรคไตรุนแรง ผู้ที่มีแนวโน้มความดันโลหิตต่ำเกินไป หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ สตรีตั้งครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่มีร่างกายเย็น หรือรับประทานบอระเพ็ดแล้วมีอาการมือเท้าเย็น แขนขาหมดแรง ตาเหลือง ให้หยุดรับประทาน เนื่องจากอาจเกิดอาการตับอักเสบ (บอระเพ็ดช่วยลดไข้ ลดความร้อนในร่างกาย การรับประทานติดต่อกันนานๆ อาจทำให้ร่างกายเย็นเกินไป มือและเท้าอ่อนแรงได้)