‘ศรัท’ ขอแก้ตัวหนหน้า ยกเหล็กไทยคืนชีพ

 พลาดโอกาสคว้าเหรียญรางวัล ส่งท้ายของทัพยกน้ำหนักไทยไปแบบเฉียดฉิว หลังทำน้ำหนักรวมน้อยกว่าอันดับ 3 เพียง 2 กิโลกรัม เจ้าตัวเผยขอกลับไปซุ่มฟิตซ้อม เพื่อกลับมาลุ้นเหรียญรางวัลในโอลิมปิกครั้งหน้า ขณะที่ยอดอัดฉีดล่าสุดสำหรับ 4 เหรียญรางวัลของทีมยกลูกเหล็ก พุ่งไปแตะที่ 93 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย

ศรัท จอมพลังวัย 22 ปีจากจังหวัดนครสวรรค์ หลานชายของประเสริฐ สุ่มประดิษฐ์ เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ที่ปักกิ่ง ขึ้นเวทีเป็นคนสุดท้าย ในรุ่น 94 กก.ชาย โดยยกท่าสแนทช์ไป 177 กก. ส่วน คลีนแอนด์เจอร์ก 213 กก. รวม 390 กก. ได้อันดับ 4  เหรียญทองเป็นของ โซห์ราบ โมราดี จากอิหร่าน (403 กก.) เหรียญเงิน วาดซิม สตราลท์ซู จากเบลารุส (395 กก.) และเหรียญทองแดง อูริมาส ดิดซ์บาลิส จากลิธัวเนีย (392 กก.)  

หลังจบการแข่งขัน ศรัท เผยว่าพอใจที่ทำสถิติได้ดีกว่าที่ซ้อมไว้ เพราะตอนต้นปีต้องเข้ารับการผ่าตัดไซนัสที่จมูกจนรู้สึกท้อ หากมีโอกาส 4 ปีข้างหน้าจะกลับมาคว้าเหรียญให้ได้

ขณะที่ผลงานทีมยกน้ำหนักไทยในริโอเกมส์ครั้งนี้ ส่งเข้าร่วม 9 คน ทำไปได้ถึง 4 เหรียญ แบ่งเป็น 2 เหรียญทอง จากโสภิตา ธนสาร รุ่น48 กก. หญิง และ สุกัญญา ศรีสุราช รุ่น 58 กก.หญิง 1 เหรียญเงิน จาก พิมศิริ ศิริแก้ว รุ่น 58 กก.หญิง และ 1 เหรียญทองแดงจาก สินธุ์เพชร์ กรวยทอง รุ่น 56 กก.ชาย โดยทั้งหมดมีกำหนดกลับถึงเมืองไทย วันที่ 17 ส.ค. เวลา 12.30 น. สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินอีเค 384

ความสำเร็จครั้งนี้ ส่งผลให้ทีมจอมพลังไทยเตรียมรับเงินอัดฉีดมหาศาล ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เริ่มจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จะมอบให้เหรียญทอง 12 ล้านบาท เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท ในเงื่อนไขรับแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี คิดเป็นเงินรวม 36 ล้านบาท ขณะที่สมาคมยกน้ำหนักฯ ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ คิดจากเงินรางวัลนักกีฬา คิดเป็นเงิน 10.8 ล้านบาท และผู้ฝึกสอนได้ 20 เปอร์เซนต์ คิดเป็นเงิน 7.2 ล้านบาท 

นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ยังจะจ่ายให้ในรูปแบบสวัสดิการ เงินเดือน เป็นเวลา 20 ปี โดยเหรียญทอง จะได้รับเดือนละ 12,000 บาท (รวม 240 เดือน 2.88 ล้านบาท) เหรียญเงิน เดือนละ 10,000 บาท (รวม 240 เดือน 2.40 ล้านบาท) และเหรียญทองแดง เดือนละ 8,000 บาท (รวม 240 เดือน 1.92 ล้านบาท) รวม 10.08 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีจากภาคเอกชน แบ่งเป็น อิชิตัน 21.5 ล้านบาท, เอไอเอส 2.8 ล้านบาท, ข่าวสด 2.8 ล้านบาท และ โอสถสภา 2.8 ล้านบาท รวมเงินอัดฉีดจากทุกฝ่ายกว่า 93,980,000 บาท โดย โสภิตา และ สุกัญญา จะได้รับเงินรางวัลรวมคนละ 27.88 ล้านบาท พิมศิริ ได้รับ 12.1 ล้านบาท และ สินธุ์เพชร์  ได้รับ 8.12 ล้านบาท