เทคโนโลยีการพิมพ์ 3มิติ มอบชีวิตใหม่ “ผู้พิการ”

ภายใต้พัฒนาการความก้าวหน้าเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3มิติ บวกกับต้นทุนการผลิตที่ราคาถูกลง และยังเป็นหนึ่งใน 10 เทคโนโลยีมาแรงปี 2559 ตามที่บริษัทวิจัยตลาดการ์ทเนอร์คาดการณ์ไว้ ทำให้หลายธุรกิจนำไปประยุกต์ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ รถยนต์ พลังงาน รวมถึงทางการแพทย์ โดยเฉพาะการพิมพ์เพื่อสร้างอวัยวะทดแทน ทำให้ผู้พิการมีความหวังมากขึ้นที่จะได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนบุคคลทั่วไป

เช่นเดียวกับ "คอรีย์ ไซมอน" หนุ่มน้อยผู้พิการแขนขวาตั้งแต่กำเนิดวัย 14 ปี จากโรงเรียนมัธยมคิงส์ เมืองดะนีดิน (Dunedin) ประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับของขวัญชิ้นใหม่ เป็นแขนกลแบบไบโอนิค (Bionic Arm) ที่สามารถสั่งการได้จากสมองไปยังกล้ามเนื้อแขน เพื่อสั่งการให้มือสามารถกางและกำมือได้ หยิบจับสิ่งของได้เหมือนใช้มือปกติทั่วไป แขนกลแบบไบโอนิคผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ของกลุ่มอาสาสมัครจากองค์กรไม่แสวงหารายได้ Limbitless Solutions ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยโพลีเทคนิคโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ และสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำนิวซีแลนด์

โดยมี “แอนดรูว์ วอลเลซ” อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ ผู้ออกแบบและพัฒนาแขนกล และ “แมทธิว คิงส์” รองศาสตราจารย์ภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาลัยโพลีเทคนิคโอทาโก หัวหน้าผู้ควบคุมการออกแบบ ได้ร่วมกันพัฒนาแขนกลนี้ให้เข้ากับสรีระและการใช้งานในชีวิตประจำของคอรีย์ 

หลังการออกแบบรายละเอียดต่างๆ ทางวิทยาลัยได้ส่งต้นแบบไปยังทีม Limbitless ในฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เพื่อขึ้นรูปและสร้างแขนกลโดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ นอกจากนี้ทีมผู้ออกแบบและพัฒนาจากวิทยาลัยโพลีเทคนิคโอทาโก ยังช่วยทำการปรับแขนกลให้คอรีย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด

โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งอยู่ภายในแขนกล ที่ผลิตขึ้นมานี้มีความสามารถสั่งการด้วยระบบส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อแขนแต่ละมัดของคอรีย์ เพื่อสั่งการให้กางและกำมือได้ 

หนุ่มน้อยคอรีย์ บอกว่า เขารู้สึกประหลาดใจที่เขาสามารถควบคุมการทำงานของแขนกลนี้ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อแขนขวาที่เดิมไม่ค่อยได้ใช้งาน สามารถขยับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น 

“แขนกลนี้มีน้ำหนักเบา แถมยังใช้งานได้ซับซ้อนมากกว่าแขนเทียมแบบอื่นที่ผมเคยใช้มา ถ้าเป็นแบบเดิม ผมจะไม่สามารถกำหรือกางมือได้เลย”

แม้หนุ่มน้อยผู้นี้จะมีข้อจำกัดทางกาย แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเขา เพราะนอกจากจะเป็นเด็กเรียนเก่งแล้ว คอรีย์ยังเป็นนักฟันดาบ นักดนตรี (ทรอมโบน) นักร้องประสานเสียง การได้รับแขนกลไฮเทคใหม่ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถให้เขาได้เทียบเท่ากับคนอื่น ๆทั่วไป

สำหรับวิทยาลัยโพลีเทคนิคโอทาโก มีความโดดเด่นเชิงวิชาการ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมเพื่อการทำงาน ปัจจุบันเปิดสอนหลักสูตรต่างๆ กว่า 100 หลักสูตร ตั้งแต่ระดับอาชีวศึกษาไปจนถึงระดับปริญญาโท และปริญญาเอก และประกอบด้วย 3 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตดะนีดีน วิทยาเขตเซ็นทรัลโอทาโก และวิทยาเขตโอ๊กแลนด์ โดยมีนักศึกษาราว 7,000 คน และบุคคลากร 500 คน

ขณะที่ กลุ่มอาสาสมัคร Limbitless Solutions ก่อตั้งขึ้นโดย “อัลเบิร์ต มาเนโร” นักศึกษาปริญญาเอก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลฟลอริดา และอดีตนักศึกษาทุนฟุลไบร์ท ผู้มีความมุ่งมั่นพัฒนาการผลิตแขนกลไบโอนิค 3 มิติ ให้มีต้นทุนและราคาที่ต่ำลง เพื่อแก้ปัญหาแขนขาเทียมที่มีราคาสูง โดยแขนกลมีราคาเพียง 350 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับแขนขาเทียมรูปแบบเดิมที่มีราคาสูงถึง 40,000 ดอลลาร์

Limbitless Solutions ยังได้บริจาคแขนกลให้ผู้ใช้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นตลอดสองปีทีผ่านมา และ “คอรีย์ ไซมอนด์” เป็นผู้โชคดีคนล่าสุดที่ได้รับของขวัญเป็นแขนกลไบโอนิคชิ้นที่ 16