ชงตั้ง 'ศาลจราจร' ยกระดับความปลอดภัย

นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยว่า การประชุมสปท.วันที่ 2 ส.ค. จะพิจารณรายงานของกมธ.ฯ ซึ่งได้ศึกษาและเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน โดยสาระสำคัญของเนื้อหาการปฏิรูปได้กำหนดแนวทางไว้ 3 ระยะ ดังนี้ 1. แผนเร่งด่วนระยะสั้นกำหนดมาตรการเร่งด่วนในช่วงเทศกาลหยุดยาวเพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิตที่เกินสถิติในช่วงปีที่ผ่านมา 2.แผนแม่บทระยะกลางใช้เวลาดำเนินการ 5 ปี คือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2560 – พ.ศ.2564 โดยกำหนดเป้าหมายลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนได้ไม่ต่ำกว่า 17,000 ราย ตามแผนยุทธศาสตร์ 6 ยุทธศาสตร์ ทั้งการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยทางถนนและการบังคับใช้ อาทิ การปรับปรุงกฎหมายด้านปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชนและผู้มีใบขับขี่ครั้งแรก ให้มีแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ การแยกใบขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่(บิ๊กไบค์) เป็นต้น, การบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน,การตรวจเช็ครถยต์ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย รวมถึงการให้การศึกษาและพฤติกรรมด้านความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชน ขณะเดียวกันการเข้าถึงพื้นที่เกิดอุบัติเหตุโดยเร่งด่วน ตามการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินด้านความปลอดภัยทางถนนต้องต้องจัดมาตรฐานการทำงานให้เหมาะสม และ3. แผนระยะยาวแบบยั่งยืน ด้วยการจัดตั้งศาลจราจร และเสริมสร้างวัฒนธรรม สังคมที่ตระหนักถึงความปลอดภัยและมีระบบขนส่งสาธารณะที่แก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน​

“แผนปฏิรูปความปลอดภัยทางถนนที่เตรียมเสนอให้สปท. พิจารณานั้น เน้นการจัดระบบเพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย อาทิ ตั้งหน่วยกลางรับข้อมูลภาพจากกล้องหน้ารถของประชาชนเมื่อบันทึกเหตุการณ์ได้ เรียกมาตรการว่า ดวงตาแห่งความปลอดภัย รวมถึงปรับปรุงองค์กรบริหารจัดการ การเสนอให้มีหน่วยตรวจสอบความปลอดภัยทางถนน แยกออกจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ก่อสร้างถนน เป็นต้น ทั้งนี้ หากสปท.ให้ความเห็นชอบแผนปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนนี้แล้ว จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุม 3 ฝ่าย คือ สปท. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาล เพื่อพิจารณาต่อไป” นายนิกร กล่าว​