'บางจาก'รุกหนัก ลุยเพิ่มปั้มน้ำมัน

‘พงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์’ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวว่า ยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการช่วง 5 เดือนแรกของบางจากขยายตัว 11.8% สูงกว่าตลาดที่เติบโต 11.3% บางจากจึงพยายามโยกน้ำมันที่ขายส่งในภาคอุตสาหกรรมและสายการบินมาจำหน่ายในสถานีบริการเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีมาร์จิ้นดีกว่า โดยปกติบางจากจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ 300 ล้านลิตรต่อเดือน จากกำลังการผลิตของโรงกลั่นบาง 500 ล้านลิตรต่อเดือน

เบื้องต้นตั้งเป้าจะเพิ่มยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ 10% จาก 270 ล้านลิตรต่อเดือนในปี 2558 เป็น 310 ล้านลิตรต่อเดือนในปีนี้

“ปีนี้ถ้าทำได้ดี กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาของธุรกิจการตลาดค้าปลีกมีโอกาสแตะ 3,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท เพราะมาร์จิ้นการค้าน้ำมันค่อนข้างดีใกล้เคียงกับปี 2558 ขณะเดียวกันยอดจำหน่ายน้ำมันและธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) ก็ขยายตัว แต่เบื้องต้นจะได้อย่างน้อย 2,500 ล้านบาทอย่างแน่นอน”

เพิ่มสถานีบริการ400แห่งใน5ปี

ปัจจุบัน บางจากมียอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการ 15% ของตลาด คิดเป็นผู้ค้าน้ำมันผ่านสถานีบริการอันดับ 2 ค่อนข้างถาวร เนื่องจากสามารถขยายสถานีบริการตามแผน จากนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 20% ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยแผนระยะ 5 ปี (ปี 2558-2562) วางงบประมาณไว้ 14,000-15,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 8,000 ล้านบาทใช้สำหรับการลงทุนสถานีบริการใหม่อีก 400 แห่ง เพื่อเพิ่มสถานีบริการจาก 1,000 แห่งในปัจจุบัน เป็น 1,300-1,400 แห่ง ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า

ในปี 2558 บางจากเปิดสถานีบริการใหม่ไปแล้ว 36 แห่ง ปีนี้จะเปิดอีก 60 แห่ง โดยปัจจุบันเปิดไปแล้ว 20 แห่ง และปี 2560 จะเปิดอีกเกือบ 100 แห่ง
ในช่วงปี 2558-2560 จะเน้นเปิดตามแนวถนนหลักเพื่อแก้ปัญหา ‘ลูกค้าหาปั๊มบางจากไม่เจอ’ และสถานีบริการที่เปิดส่วนใหญ่เป็นสถานีแบบมาตรฐานส่งผลให้สถานีบริการประเภทนี้เพิ่มจาก 400 แห่งในปัจจุบันเป็น 700 กว่าแห่งใน 5 ปีข้างหน้า

ด้านถนนสายรองจะเน้นธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) รวมถึงปรับปรุงสถานีบริการแบบสหกรณ์ 600 แห่งให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยจะมีสถานีบริการสหกรณ์ปิดตัวบ้างและเปิดใหม่ราว 20 แห่ง

ขณะเดียวกันจะเปลี่ยนโฉมสถานีบริการแบบมาตรฐานที่ใช้มากว่า 10 ปี โดยสถานีบริการโฉมใหม่จะมีรูปลักษณ์ทันสมัย พื้นที่ใหญ่ขึ้น มีธุรกิจนอกจากน้ำมันแบบครบวงจร และมีห้องน้ำที่สะดวกสบาย สถานีบริการแห่งแรกเริ่มก่อสร้างแล้วบนถนนราชพฤกษ์และจะเปิดตัวสิ้นปีนี้

“บางจากยังศึกษาการเพิ่มผลิตภัณฑ์ดีเซล เกรดพรีเมี่ยม ถ้าตัดสินใจผลิตก็จะมีความชัดเจนช่วงต้นปี 2560”

เน้นปรับโฉมสถานีบริการ-นอนออยล์

‘พงษ์ชัย’ กล่าวต่อว่า งบลงทุนตามแผน 5 ปีที่เหลืออีก 6,000-7,000 ล้านบาทจะใช้สำหรับการปรับปรุงสถานีบริการเดิมและขยายธุรกิจนอน-ออยล์ ซึ่งต่อไปจะเน้นธุรกิจกลุ่มนี้มากขึ้น

เมื่อต้นปีที่ผ่านบางจากได้ตั้ง บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด หรือ BCR เพื่อความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจนอน-ออยล์ และจะเน้นการลงทุน 3 ด้าน ได้แก่ ร้านค้าขายปลีก กาแฟ และอาหาร ล่าสุดได้รับซื้อลิทสิทธิ์มาสเตอร์ แฟรนไชส์จากร้านค้าปลีกสัญชาติยุโรปด้วยเงื่อนไขค่อนข้างดีมาก พันธมิตรรายนี้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การกระจายสินค้า และมีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมเตรียมบุกตลาดในภูมิภาค

"ถ้าเราจะรวมนอน-ออยล์เข้าด้วยกัน มันจำเป็นต้องมีแบรนด์ของตัวเอง แต่ก็ต้องมีพันธมิตรเพราะการทำธุรกิจคนเดียวมันค่อนข้างลำบาก ซึ่งพันธมิตรเรามีทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีไฮไลต์ด้านอาหารตรงกับที่เราต้องการ เพราะผู้บริโภคเข้าปั๊มก็อยากหาอะไรทานง่ายๆ พร้อมช่วยเชื่อมโยงกาแฟอินทนิล น้ำมัน และร้านค้าปลีกจะแยกให้เกี่ยวโยงกันหมด อีกทั้งสามารถขยายสู่การเปิดร้านนอกปั๊มและจำหน่ายทางออนไลน์”

มุ่งสร้างแบรนด์ของตัวเอง

ต่อไปบางจากจะมุ่งแบรนด์ค้าปลีกของตัวเองเป็นหลัก โดยเฉพาะปีนี้จะนำร่องเปิด 5 แห่งและต่อไปจะเน้นเปิดที่สถานีบริการแบบ Flagship แต่บางพื้นที่ก็เหมาะกับการเปิดร้านบิ๊กซีมากกว่า โดยปัจจุบันบางจากมีร้านบิ๊กซีในสถานีบริการรวม 165 แห่งและยังขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

ด้านร้านกาแฟแบรนด์อินทนิลมีจำนวนรวม 380 แห่ง แบ่งเป็นอินทนิล คอฟฟี่ 350 แห่ง ยอดขายเฉลี่ยกว่า 100 แก้วต่อวันต่อสาขาและมีรายได้ 150,000-160,000 บาทต่อเดือนต่อแห่ง และอินทนิล การ์เด้น 30 แห่ง มียอดจำหนายสูงกว่าอินทนิลคอฟฟี่ราว 30-40% และมีรายได้ 300,000-400,000 บาทต่อเดือนต่อแห่ง

ตามแผนจะมีการเพิ่มร้านกาแฟอินทนิลเป็น 1,000 แห่งภายใน 5 ปีและเน้นที่อินทนิล การ์เด้นที่มีรายได้ดีกว่า นอกจากนี้จะเพิ่มอาหารแบบ Street food เข้ามาในสถานีบริการเพื่อความหลากหลาย

“อิบิทด้าของธุรกิจนอน-ออยล์จะเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทในปีนี้ จากปีก่อนอยู่ที่ 100 ล้านบาท แต่ยังถือว่ามีสัดส่วนน้อย บางจากจึงจะลงทุนเพื่อเพิ่มสัดส่วนอิบิทด้าของ Non-Oil ให้เพิ่มจาก 10% ในปัจจุบันเป็น 30% หรือ 1,500 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า เพราะให้ผลตอบแทนดีกว่าและช่วยรองรับธุรกิจค้าน้ำมันซึ่งยังมีภาพไม่ชัดเจน”

ทดลองตั้งสถานีจ่ายไฟรับรถไฟฟ้า

“พงษ์ชัย” กล่าวว่าอนาคตของธุรกิจค้าน้ำมันยังไม่แน่นอน เพราะการเปลี่ยนแปลงของขนส่งสาธารณะและการเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บางจากจึงศึกษาการตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้านำร่อง 2-3 แห่งภายในปีนี้

“เราไม่ได้คาดหวังตัวนี้เยอะ มันอาจจะไม่ใช่ เพราะการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว (Quick Charge) ก็ต้องใช้เวลาถึง 3-4 ชั่วโมง การชาร์จจึงเหมาะกับสำนักงานหรือห้างมากกว่าในปั๊ม แต่ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานว่าเทคโนโลยี EV และแบตเตอรี่จะพัฒนาไปได้แค่ไหน ถ้าเร็วอาจจะมีโอกาส”

อย่างไรก็ตาม บางจากได้จับมือกับบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นชื่อ FOMM ที่มีแผนจะตั้งโรงงานผลิต EV ในประเทศไทย ถ้ามีการตั้งโรงงานจริง บางจากก็พร้อมลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าและเปลี่ยนแบตเตอรี่ในสถานีบริการ