ตลาดสมาร์ทโฟนชะลอปีแรก

ตลาดสมาร์ทโฟนชะลอปีแรก

ผู้ค้าไอทีประเมินยอดขายสมาร์ทโฟนครึ่งปีหลัง "เติบโตลด" แม้ช่วงไฮซีซั่น แบรนด์แห่เปิดรุ่นใหม่ เหตุผู้บริโภคชะลอเปลี่ยนเครื่อง

นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีและโทรศัพท์มือถือ เผยว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นมาจะเริ่มเห็นการลดลงของยอดขายสมาร์ทโฟนชัดเจนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นตลาดใหญ่จากจำนวนซื้อเฉลี่ยราว 1.5-2 ล้านเครื่องต่อเดือน

ปัจจัยสำคัญมาจากอัตราการเปลี่ยนเครื่องใหม่ชะลอลง เพราะผ่านจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีในประเทศจากระบบ 2จีมาเป็น 3จี และ 4จี ที่บีบให้ผู้ใช้จำเป็นต้องเปลี่ยนจากโทรศัพท์มือถือธรรมดา (ฟีเจอร์โฟน) ให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเห็นการทำโปรโมชั่นสนับสนุนจากผู้ให้บริการระบบอย่างคึกคัก ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงไตรมาสแรกปีนี้

ขณะเดียวกันก็เป็นจังหวะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคทั่วไปชะลอตัว โดยเฉพาะฐานใหญ่อย่างภาคเกษตรได้ผลผลิตไม่ดีก็เป็นผลกระทบต่อเนื่องกันมา แม้ไม่กระทบถึงสินค้าไอทีโดยตรง แต่ถ้าถามว่าคนมีเงินจำนวนหนึ่งสำหรับซื้อสินค้าไอทีจะซื้ออะไรก่อน คำตอบแรกคือ ซื้อสมาร์ทโฟนก่อนพีซี

ส่วนเทคโนโลยีบนมือถือในภาพรวมแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงถึงขนาดกระตุ้นให้ซื้อเครื่องใหม่ได้ ส่งผลให้อัตราเฉลี่ยการเปลี่ยนมือถืออยู่ที่ 2 ปีจากเดิมไม่ถึงปีก็เปลี่ยนแล้ว

“การเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเร็วๆ ตามแฟชั่นเหมือนเมื่อก่อนเริ่มน้อยลง เพราะเทคโนโลยีไม่ได้ดึงดูดขนาดนั้น เช่นช่วงที่คนซื้อไอโฟนเยอะเพราะเปลี่ยนจากจอเล็กมาใหญ่ขึ้น แอนดรอยด์ก็เหมือนกัน คือตอนนี้ถ้าไม่มีเหตุให้จำเป็นต้องเปลี่ยน คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะใช้จนมันพังค่อยเปลี่ยนใหม่”

ส่วนภาพรวมของเอสไอเอสปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย และคาดว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าเดิม แต่ต้องจำแนกตามกลุ่มสินค้าด้วย เพราะกลุ่มพีซีไม่เติบโตเท่าที่ควร แต่บริษัทยังมีโอกาสในกลุ่มสมาร์ทโฟน ที่บริษัทยังมีส่วนแบ่งในตลาดน้อย

บริษัทกำลังเจรจากับแบรนด์สมาร์ทโฟนหลายราย รวมถึง “โมโตโรล่า” ที่เคยได้สิทธิเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทยก่อนถอนตัว และกลับมาทำตลาดทั่วโลกอีกครั้ง จากปัจจุบันเอสไอเอสเป็นตัวแทนจำหน่ายให้ซัมซุง, เลอโนโว, เอซุส และวีโก

นักวิเคราะห์คาดรุ่นใหม่ปลุกตลาด

นายจาริตร์ สิทธุ ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัย สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ ดีไวซ์ ประจำไอดีซี ประเทศไทย ประเมินว่า กำลังซื้อโดยรวมสำหรับสินค้าในกลุ่มไอทีจะบวกขึ้นเล็กน้อยในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจ และการปรับตัวของตลาด โดยคาดว่าปีนี้ยอดขายรวมสมาร์ทโฟนจะอยู่ที่ 21.9 ล้านเครื่องมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ไม่รวมการทำโปรโมชั่นส่วนลดค่าเครื่องของผู้ให้บริการระบบ) เทียบกับปี 2558 ยอดขายสมาร์ทโฟนในไทยอยู่ที่ 21.9 ล้านเครื่อง มูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์

ในจำนวนนี้ราว 50% เป็นยอดขายจากกลุ่มผู้ให้บริการระบบ จากการโหมทำตลาดแบบยอมเฉือนเนื้อตัวเอง เพื่อดึงลูกค้าเข้าระบบ และเพิ่มสัดส่วนการใช้แพ็คเกจแบบรายเดือน

นอกจากนี้ ยังคาดว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรกตามวงจรของตลาดที่ครึ่งปีหลังมีสินค้าใหม่เปิดตัวหลายแบรนด์ รวมถึงไอโฟนรุ่นใหม่ ที่จะช่วยกระตุ้นการซื้อช่วงปลายปี

“เชื่อว่ากลยุทธ์การซับซิไดซ์ราคาเครื่องของผู้ให้บริการระบบ เช่น ไอโฟน 5เอส เหลือ 5,400 บาท และการทำรุ่นให้แมสขึ้นของแอ๊ปเปิ้ล เช่น ไอโฟน เอสอี ที่ราคาระดับหมื่นต้นๆ จะช่วยอุดช่องว่างตลาดได้หมด และทำให้ยอดขายยังเติบโตได้”

ขณะที่ยอดสรุปไตรมาสแรกปี 2559 การใช้จ่ายซื้อสินค้าพีซี, โทรศัพท์มือถือ และแทบเล็ตในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป มีมูลค่ารวม 3.88 หมื่นล้านบาท ลดลง 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ปัจจัยหลักมาจากเงินใช้จ่ายซื้อโทรศัพท์มือถือลดลง 9% เพราะราคาเครื่องปรับลดลงมาก ทั้งยังเป็นผลจากผู้ค้าลดราคา และกลยุทธ์แจกเครื่องฟรีของผู้ให้บริการระบบ นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการเสื่อมความนิยมของสินค้าประเภทแทบเล็ตที่มียอดลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

หวัง“ไฮซีซั่น”ปลุกครึ่งปีหลังคึก

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ ภายใต้ชื่อบานาน่า ไอที, บานาน่า โมบาย, ไอสตูดิโอ, ไอบีท, ยูสโตร์และไอแคร์ บายคอมเซเว่น กล่าวว่า ภาพรวมสินค้าไอทีของบริษัทยังได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็น แอ๊ปเปิ้ล และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ทยอยออกสู่ตลาด

พร้อมทั้งบริษัทมุ่งทำตลาดร่วมกับค่ายมือถือขายเครื่องพ่วงซิมอย่างจริงจัง เริ่มเมื่อเดือน พ.ค.-มิ.ย. โดยบริษัทมียอดเปิดเบอร์มือถือ 2 หมื่นเบอร์ และมั่นใจใน 1 ปีนี้จะเปิดได้ 1 แสนเบอร์ตามเป้าหมาย

“บริษัทได้เปรียบในแง่ของสินค้าที่มีครบทุกยี่ห้อ ทั้งฝั่งสมาร์ทโฟน และแทบเล็ต โน้ตบุ๊ค ดังนั้นยอดขายแต่ละเดือนจะชดเชยกันได้ เช่น บางเดือนโน้ตบุ๊คขายไม่ดี แต่กลุ่มสมาร์ทโฟนกลับทำยอดขายดี เราไม่ได้ขายแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง ถือว่าตรงนี้เราได้เปรียบ อย่างช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดมือถือยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามาก จะมีเพียงไอโฟน เอสอี ที่ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดี สถานการณ์ของบริษัทถือว่ายังมั่นคง ที่ผ่านมาจับมือกับพาร์ทเนอร์ทรูขายสมาร์ทโฟนพร้อมซิม มีโปรโมชั่น มีส่วนลด ”
ภาพรวมครึ่งแรกบริษัทน่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ส่วนใหญ่สถานการณ์ตลาดครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะปลายไตรมาส 3 ที่มักจะมีสินค้าใหม่ออกมา เชื่อว่าจะปลุกตลาดได้มาก

“ตลาดมือถือยังไปได้ดี ยังเติบโต แต่การเปลี่ยนเครื่องใหม่ ตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 18 เดือน ตัวที่น่าเป็นห่วง คือแทบเล็ต ที่อาจจะชะลอตัวลง เพราะไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเดียวกับพวกแก๊ดเจ็ทต่างๆ ตลาดชะลอลงมาก ส่วนโน้ตบุ๊คตลาดเท่าเดิม คาดว่าปีนี้ตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้ น่าจะอยู่ราวๆ 5 ล้านเครื่อง มากกว่าครึ่งรองรับ4จี”

ทั้งนี้ผลงานครึ่งปีแรกถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมั่นใจจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่เป็นไฮซีซันของธุรกิจจากสินค้าใหม่ที่ทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยแอ๊ปเปิ้ลซึ่งปกติจะออกสินค้าใหม่ช่วงปลายปี และจากข่าวลือที่คาดว่า จะมีเปิดตัวไอโฟน 7 ปลายปีนี้ บริษัทยืนยันเป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโตแตะ 17,000 ล้านบาท หรือ 15% จากปีก่อนที่ 14,991 ล้านบาท