คนร้ายใช้ปืนจี้เด็ก7เดือน มอบตัวตร.-เป็นของขวัญวันแม่

คนร้ายใช้ปืนจี้เด็ก7เดือน มอบตัวตร.-เป็นของขวัญวันแม่

เหตุระทึก! คนร้ายใช้ปืนจี้สาวพร้อมเด็ก 7 เดือน เข้ามอบตัวตร. หลังแม่อ้อนวอนขอเป็นของขวัญวันแม่

ความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้ทำการจับกุม นายสุทธิศักดิ์ หรือต้น ศรีวิโรจน์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 4 ต.คลองตำหรุ อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซูเมอร์เอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 08-5343 สภ.เมืองชลบุรี อาวุธปืนบีบีกันลูกโม่ 1 กระบอก กรอบไอโฟน 6 สีทอง บัตรคีย์การ์ดคอนโดลุมพินี แหวนเพชร 1 วง มูลค่าประมาณ 15,000 บาท ผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์ น.ส.เบญจมาศ ภัทรเลิศปรีชา อายุ 23 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน น.ส.ศรัญญาทิพย์ มนูกูล อายุ 23 ปี เป็นคนอุ้มหลานอายุ 7 เดือนมาด้วย โดยใช้อาวุธปืน บีบีกันจี้เพื่อเอาทรัพย์สิน โดยช่วงนั้นมีเด็กอายุ 7 เดือน ถูกจี้โดยไม่รู้เรื่องด้วย แต่คนร้ายไม่สนใจ เหตุเกิดบริเวณซอยบ่อหลังบ้าน ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี

เมื่อได้ทรัพย์สินแล้ว คนร้ายได้หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจได้จับกุมนายสุทธิศักดิ์ได้ และส่งตัวให้ศาลพิจารณาคดีไปแล้ว ส่วนนายสุริยา หรือดำ จุนทอง อายุ 35 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 16 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 กรกฎาคม 2559 พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.สภ.เมืองชลบุรี แถลงข่าวการจับกุมตัว นายสุริยา จุนทอง พร้อมทั้งให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน นายสุทธิศักดิ์มาเที่ยวเล่นที่บริเวณสะพานเลียบชายทะเล เขตเทศบาลเมืองชลบุรี หลังจากนั้น นายสุทธิศักดิ์ได้ชักชวนบอกว่า จะไปหาเงินใช้ พร้อมทั้งเอาปืนบีบีกันให้ตนถือ ส่วนนายสุทธิศักดิ์ได้เปลี่ยนเป็นคนขี่และตนซ้อน มุ่งมาทางตลาดใหม่ เมื่อมาพบเหยื่อ นายสุทธิศักดิ์ได้ลงจากรถจักรยานยนต์คว้าปืนไปชี้หญิงสาว 2 คน และมีเด็กด้วย ตัวเองก็ตกใจ เพราะไม่เคยก่อคดีอาชญากรรม ช่วงนั้นได้มีรถวิ่งผ่านมา จึงได้ตัดสินใจมาขี่รถจักรยานยนต์และเรียกให้นายสุทธิศักดิ์ซ้อนท้ายหลบหนีไป

“ช่วงที่หลบหนีนั้นแม่ได้อ้อนวอนให้เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพราะใกล้วันแม่และขอเป็นของขวัญวันแม่ด้วย พร้อมทั้งบอกว่าติดคุก 4-5 ปี แม่รอได้ หากหนีตำรวจอย่างนี้โอกาสที่จะได้พบกันน้อยมากหรือไม่พบกันเลย จึงได้ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อยอมรับโทษที่ก่อไว้”