ลุ้น!! 'น้องเมย์' ผ่านโด๊ป รอแบดโลกคอนเฟิร์ม

ผู้สื่อขาวรายงานว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวที่ระบุว่า น.ส.รัชนก อินทนนท์ หรือ น้องเมย์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทยมือ 4 ของโลก ไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้นจากการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ส่งตัวอย่างของนักแบดมินตันสาวไทยไปตรวจสอบที่ศูนย์ประเทศญี่ปุ่น และเข้าสู่กระบวนการขององค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาดา)

ทั้งนี้จากกรณีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อนักกีฬาที่อาจจะถูกลงโทษห้ามเข้าร่วมการแข่งขันในกีฬาระดับนานาชาติ โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งจะแข่งขันในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันผู้แทนสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ได้แก่ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตัน นายวีรชัย วิภาตวิทย์ รองเลขาธิการนายกสมาคม น.ส.คณิศรา เงินศรีสุข ผู้จัดการส่วนตัวของ “น้องเมย์” ได้ปฏิเสธการให้ข่าวสารใดๆ ยืนยันเพียงว่า ต้องรอให้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

นพ.มีชัย อินวู๊ด ผู้อำนวยการกองเวชศาสตร์กีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า ในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา กกท.ได้ตรวจสารต้องห้ามในนักกีฬาไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ 52 คน ไม่พบการใช้สารต้องห้ามแต่อย่างใด กรณีของ “น้องเมย์” นั้น ตามกระบวนการแล้ว หากตรวจพบสารต้องแจ้งไปที่ตัวนักกีฬา และสมาคมกีฬานั้นๆ ก่อนที่จะแจ้งกลับมาที่ กกท. ซึ่งต้องรอผลอย่างเป็นทางการ ในขณะนี้ นักกีฬายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จะกล่าวหาว่าใช้สารต้องห้ามไม่ได้ ต้องรอการยืนยันจากสหพันธ์แบดมินตันโลกอีกครั้ง

สำหรับเรื่องของการใช้สารต้องห้ามนั้น น้องเมย์อาจจะใช้ยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า โดยนพ.มีชัย กล่าวว่า ยารักษาต่างๆ มีตัวยาบางส่วนที่อาจจะเป็นสารต้องห้าม ซึ่งนักกีฬาจะต้องมีความระมัดระวัง และปรึกษากับหมออย่างใกล้ชิด โดยกรณีของนักกีฬาระดับโลก อย่าง ลี ชอง เหว่ย นักแบดมินตัน ซึ่งเคยมีดีกรีเป็นมือ 1 ของโลก ชาวมาเลเซีย ก็เคยถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้าม ประเภทยาบำรุง ถูกลงโทษห้ามแข่งขัน 8 เดือน หากเป็นตัวยาที่แรงกว่านั้น อย่างสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นหลัก ก็อาจจะถูกลงโทษ 2-4 ปี

ขณะที่ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องรอคำยืนยันจากสหพันธ์แบดมินตันโลกที่ชัดเจนอีกครั้ง ต้องรอผลการตรวจที่แน่นอน จึงขอให้นักกีฬาทีมชาติไทยที่ได้โควตาไปโอลิมปิกทำหน้าที่ฝึกซ้อมตามปกติมีสมาธิในการฝึกซ้อม ต้องให้กำลังใจนักกีฬาต่อไป ข่าวที่ออกมาต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ หรือ บิ๊กจา รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า กรณีนี้ ต้องรอผลการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งน้องเมย์ยังเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยชุดที่จะไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล จนกว่าจะมีผลการตัดสินเป็นอื่น หากพบว่านักกีฬาพบการใช้สารต้องห้าม และมีการลงโทษห้ามแข่งขัน ก็ต้องตัดชื่อออกเป็นธรรมดา แต่การห้ามเดินทางไปแข่งขัน ยังดีกว่าไปแข่งขันและได้เหรียญกลับมาแล้วถูกลงโทษภายหลัง ซึ่งจะต้องภาวนาไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนั้น

ส่วนนายธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมแบดมินตัน ยืนยันว่า ไม่ได้รับรายงานดังกล่าว และ น้องเมย์ยังคงเก็บตัวฝึกซ้อมตามปกติเพื่อเข้าแข่งขันที่ประเทศบราซิล โดยเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่กิเลนวัลเลย์ จ.นครราชสีมา และไม่มีการแจ้งเรื่องสารกระตุ้นตามที่เป็นข่าว โดยปกติแล้วในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆ จะมีการสุ่มตรวจสารกระตุ้นในนักกีฬาแต่ละคนอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้องเมย์ก็เคยถูกสุ่มตรวจและไม่พบความผิดปกติ สามารถแข่งขันได้ปกติ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังโรงเรียนสอนแบดมินตันบ้านทองหยอด ซึ่งเป็นต้นสังกัดของน้องเมย์ แต่ได้รับคำตอบว่า ยังไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้