'เสี่ยปู่'ลดถือดับบลิวเอชเอ สัดส่วนหลุด5%ครั้งแรก4ปี

'เสี่ยปู่'ลดถือดับบลิวเอชเอ สัดส่วนหลุด5%ครั้งแรก4ปี

"เสี่ยปู่" นักลงทุนรายใหญ่ ขายหุ้น "ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น" 20 ล้านหุ้น ทำสัดส่วนหลุด 5% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

การลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ อาจจะเป็นปัจจัยที่สามารถนำมาประกอบการตัดสินใจได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้นเมื่อเสี่ยปู่ หรือ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล นักลงทุนรายใหญ่ รายงานสำนักงานก.ล.ต. ล่าสุดเมื่อวันที่ 4ก.ค.2559 มีการแบ่งขายหุ้นบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.1396%ของหุ้นทั้งหมด ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 3.16 บาท มูลค่ารวม 63.2 ล้านบาท ซึ่งภายหลังจากการขายทำให้สัดส่วนเหลือเพียง 4.86% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือตั้งแต่ “เสี่ยปู่”เข้ามาลงทุนถือหุ้นเมื่อปี 2555 โดยการจองซื้อหุ้นไอพีโอหุ้นดังกล่าว รวมทั้งอาจมีการเข้าลงทุนซื้อหุ้นในกระดานหลักอยู่บ้าง

หากพิจารณาต้นทุนการถือครอง จะเห็นว่า น่าจะอยู่ราคาไอพีโอที่ 13.25 บาท (พาร์ 1 บาท) แต่ปัจจุบันพาร์ปรับลดเหลือ 0.10 บาท เท่ากับว่ามีต้นทุนที่ 1.32 บาท และคาดว่าการขายหุ้นครั้งนี้ราคาสูงสุดที่ 3 บาทกว่า ดังนั้นน่าจะรับส่วนต่างกำไรไม่ต่ำกว่า 2-3 เท่าตัว

จากรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ตั้งแต่ปี 2556 พบว่าสัดส่วนการถือหุ้นเริ่มแรกของตระกูล ชลคดีดำรงกุล อยู่ที่ราว 5.1% หลังจากนั้น 1 ปี สัดส่วนการถือครองหุ้นรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นแตะ 7.8% ก่อนที่สัดส่วนการถือครองจะค่อยๆ ลดลงมาเหลือ 6-7%

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นดับบลิวเอชเอ รอบกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นจากระดับ 0.79 บาท ซึ่งเป็นราคาเปิดวันแรก ก่อนปรับตัวขึ้นไปแตะ 3.77 บาท ภายใน 1 ปี หลังจากนั้น ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 2.4-4.2 มาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.10 บาท

สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล นักลงทุนรายใหญ่ เปิดเผยว่า การตัดขายหุ้นดับบลิวเอชเอครั้งนี้ เป็นเพียงการบริหารพอร์ตลงทุนผ่าน บลจ.แอสเซทพลัส โดยเป็นการลดสัดส่วนลงเล็กน้อย เพื่อโยกเงินลงทุนไปยังหุ้นอีกตัวหนึ่งที่มองว่าน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน ส่วนหุ้นดับบลิวเอชเอนั้นก็ยังมองว่ามีพื้นฐานที่ดี และจะมีปัจจัยเข้ามาหนุนราคาหุ้นในช่วงปลายปีหรือต้นปีหน้า

การตัดขายออกไปครั้งนี้เป็นเพียงสัดส่วนเล็กน้อย ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร และส่วนตัวก็ยังมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทอยู่มาก ซึ่งในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าบริษัทน่าจะได้ปัจจัยหนุนจากแผนการนำบริษัทลูกซึ่งทำธุรกิจไฟฟ้าเข้าจดทะเบียน และผู้ถือหุ้นเดิมของดับบลิวเอชเอก็อาจจะได้สิทธิจองซื้อด้วย ส่วนธุรกิจให้เช่าคลังสินค้านั้นก็มีแนวโน้มที่ดี เพราะรัฐบาลก็มีนโยบายสนับสนุนเกี่ยวกับด้านนี้ โดยเฉพาะในภาคตะวันออก ซึ่งบริษัทมีที่ดินอยู่มาก”

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองหุ้นของเสี่ยปู่จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุดในปีนี้ พบว่า ถือครองหุ้นทั้งสิ้น 11 บริษัท ได้แก่ เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (APX) บ้านร็อคการ์เด้น (BROCK) ณุศาศิริ (NUSA) ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เอส 11 กรุ๊ป (S11) เซ็ปเป้ (SAPPE) ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง (SGF) เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (SIS) ทรัพย์ศรีไทย (SST) ดับบลิวเอชเอ (WHA) และเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK)