วิเคราะห์เกม เวลส์ VS เบลเยี่ยม ศึกรอบ8ทีมยูโร2016

วิเคราะห์เกม เวลส์ VS เบลเยี่ยม ศึกรอบ8ทีมยูโร2016

"เวลส์" ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ใหม่กับ "เบลเยี่ยม" วิเคราะห์ส่องเกมคู่นี้ รอบ8ทีมศึกยูโร2016

ศึกยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้ายวันที่ 2 กรกฎาคม ที่สนามสต๊าด ปิแอร์ โมรัว เมืองลีลล์ "มังกรแดง" เวลส์ ที่ชนะไอร์แลนด์เหนือมา 1-0 จะลงสนามพบ "ปีศาจแดง" เบลเยี่ยม ทีมเต็ง 3 ที่ถล่ม ฮังการี 4-0 ในเวลา 02.00 น. โดยเกมนี้จะเป็นการพบกันอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจะพบกันมาในรอบคัดเลือกกลุ่ม บี ซึ่ง เบลเยี่ยม เป็นแชมป์ และ เวลส์ เป็นรองแชมป์ ซึ่งหากว่า เวลส์ ชนะเกมนี้ได้จะเป็นการเข้ารอบรองชนะเลิศทัวร์นาเม้นต์ใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขณะที่ เบลเยี่ยม มีผลงานดีที่สุดคือการเป็นรองแชมป์ยูโร 80

คริส โคลแมน กุนซือของเวลส์ สามารถส่งทีมชุดใหญ่ลงสนามในเกมนี้ได้อย่างเต็มที่และจะนำทีมโดย แกเรธ เบล ซูเปอร์สตาร์ของทีมเหมือนเดิม แต่ยังมีเรื่องให้ต้องตัดสินใจว่าจะให้ใครลงมาเป็นกองหน้าคู่กับ เบล ระหว่าง แซม โวลค์ส ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงมาแล้ว 2 นัด กับ ฮาล รอบสัน คานู ที่ยิงประตูได้ตั้งแต่เกมนัดแรกที่ชนะ สโลวะเกีย 2-1

แนวรับยังคงเล่นระบบกองหลัง 5 คนเน้นความรัดกุมเอาไว้ก่อน และ 3 เซ็นเตอร์แบ็คจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใช้ แอชลีย์ วิลเลียมส์ กัปตันทีม, เจมส์ เชสเตอร์ และ เบน เดวิส ฟลูแบ็คจากสเปอร์ส ที่ถูกปรับมาเล่นเป็นปราการหลังตัวกลาง และให้ นีล เทย์เลอร์ เล่นเป็นแบ็คซ้าย

แดนกลางยังเป็น 3 ประสาน แอรอน แรมซีย์, โจ เลดลีย์ และ โจ อัลเลน ที่เล่นร่วมกันมาตลอดหลังจากที่ เลดลีย์ เรียกความฟิตกลับมาได้ในช่วง 2 เกมสุดท้ายของรอบแรก ขณะที่แนวรุกจะมี แกเรธ เบล เป็นตัวทีเด็ด ขณะที่คู่ขามีโอกาสจะปรับมาเป็น ฮาล รอบสัน คานู เนื่องจาก คริส โคลแมน มองว่ามีความเฉียบคม และเล่นเกมโต้กลับได้ดีกว่า แซม โวลค์ส

ฝั่ง เบลเยี่ยม กุนซือ มาร์ค วิลมอทส์ ย้ำกับลูกทีมว่าเกมนี้ต้องเล่นแบบอดทน และประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะเท่าที่ดูการเล่นของ เวลส์ รวมทั้งที่พบกันมาในรอบคัดเลือกซึ่ง เบลเยี่ยม ไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่นัดเดียวแล้วคู่แข่งเป็นทีมที่เล่นตั้งรับเหนียวแน่น และมีตัวทีเด็ดในการโต้กลับได้ดี จึงเตรียมทีมด้วยการปิดโอกาสของทั้ง แกเรธ เบล และ แอรอน แรมซีย์ กองกลางตัวเดินเกม

ขณะที่เรื่องตัวผู้เล่นมีข่าวดีที่จะได้ เอดอง อาซาร์ ปีกตัวเก่งและกัปตันทีมฟิตลงสนามเกมนี้ได้อย่างแน่นอนแม้ว่าจะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาทำให้ไม่ได้ลงซ้อมไปเมื่อวันอังคาร โดยล่าสุดสามารถลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ตามปกติด

อย่างไรก็ตามแนวรับของ เบลเยี่ยม เกมนี้ต้องมีการปรับทัพเมื่อ โธมัส แฟร์มาเลน ที่เล่นเป็นแบ็คซ้ายในทัวร์นาเม้นต์นี้ ติดโทษแบนไม่สามารถลงสนามได้ ขณะที่ แยน แฟร์ทองเกน ที่เป็นเซ็นเตอร์แบ็คมาหลายนัดเจ็บข้อเท้าต้องพักยาว จึงต้องส่ง เจสัน เดนาเยอร์ ลงมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คร่วมกับ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ และแบ็คซ้ายจะเป็น จอร์แดน ลูคาคู น้องชายของ โลเมลู ลูคาคู

แดนกลาง รัดยาร์ เนียงโกลัน กับ อักเซิล วิทเซิล ยังคงรับบทเป็นมิดฟิลด์คู่กลาง และเกมรุกจะใช้ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นจอมทัพ ขณะที่ตำแหน่งของ เอดอง อาซาร์ นั้นึ้นอยู่กับว่า วิลมอทส์ จะส่ง ดรีส เมอร์เทนส์ เป็นตัวจริงเหมือนเกมที่แล้วหรือจะใช้ ยานนิก การ์ราสโซ กลับมาเป็นตัวจริง หากเป็น เมอร์เทนส์ จะให้ อาซาร์ ไปยืนทางฝั่งซ้าย แต่หากเป็น การ์ราสโซ อาซาร์ จะไปเล่นทางฝั่งขวา และหัวหอกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็น โรเมลู ลูคาคู

สำหรับสถิติที่พบกันมาของคู่นี้ถือว่าสูสีกันมาก พบกันมาแล้ว 12 ครั้ง เบลเยี่ยม มีผลงานดีกว่าเล็กน้อยชนะได้ 5 ครั้ง ขณะที่ เวลส์ ชนะ 4 ครั้ง และเสมอกัน 3 ครั้ง แต่ที่พบกันมาในเกมรอบคัดเลือกยูโรคราวนี้ 2 นัด เป็น เวลส์ ที่ผลงานดีกว่าบุกไปเสมอที่ บรัสเซลส์ 0-0 และเอาชนะ 1-0 ที่คาร์ดิฟฟ์ จากประตูชัยของ แกเรธ เบล ซึ่งเป็นเกมล่าสุดที่พบกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวลส์ในระบบ 5-3-2
ผู้รักษาประตู - เวย์น เฮนเนสซี
กองหลัง- คริส กันเทอร์, เจมส์ เชสเตอร์, แอชลีย์ วิลเลียมส์, เบน เดวิส, นีล เทย์เลอร์
กองกลาง - แอรอน แรมซีย์, โจ เลดลีย์, โจ อัลเลน
กองหน้า - แกเรธ เบล, ฮาล รอบสัน คานู
เบลเยี่ยม ในระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู- ติโบต์ กูร์ตัวส์
กองหลัง - โธมัส มูนิเยร์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, เจสัน เดนาเยอร์, จอร์แดน ลูคาคู
กองกลาง - รัดยา เนียงโกลัน, อักเซิล วิทเซิล, ยานนิก การ์ราสโซ, เควิน เดอ บรอยน์, เอดอง อาซาร์
กองหน้า - โรเมลู ลูคาคู