‘เยอรมนี’ฟูลทีม - ‘อัซซูรี’ สถิติข่ม

 คู่ที่สาม ในคืนวันเสาร์ที่ 2 ก.ค. 59 เป็นการพบกันระหว่าง เยอรมนี กับ อิตาลี ที่สนาม สต๊าด เดอ บอร์กโดซ์ เวลา 02.00 น. ‘อินทรีเหล็ก’ อยู่ในสภาพฟูลทีม พร้อมจัดทัพใหญ่ ส่วน ‘อัซซูรี’ มีปัญหาแดนกลาง เมื่อ ติอาโก ม็อตตา ติดแบน ส่วน ดานิเอเล เด รอสซี บาดเจ็บ

เกมคู่ที่สามของรอบก่อนรองชนะเลิศ ‘ยูโร 2016’ ระหว่าง เยอรมนี กับ อิตาลี โดยแชมป์โลกทีมล่าสุดชนะ สโลวะเกีย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ขณะที่ อิตาลี ล้างแค้น สเปน แชมป์เก่ามา 2-0

สภาพทีมล่าสุด โยอัคคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ โดย โยนาส เฮคเตอร์ แบ็กซ้ายจากโคโลญจน์ที่ป่วยเป็นไข้หวัด แม้จะกลับมาซ้อมแล้ว แต่อาจเป็น เบเนดิคท์ ฮาวเวเดส ที่ได้ลงเล่นแทน

เกมนี้ เลิฟ อาจปรับทีมเล็กน้อยให้ มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสา แผงหลังสี่คนประกอบด้วย โจชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิลส์ และ เบเนดิคท์ ฮาวเวเดส ให้ โทนี โครส กับ ซามี เคดิรา เป็นตัวเชื่อมเกม ส่วนแนวรุก เป็น โทมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล และ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ สนับสนุน มาริโอ โกเมซ

ด้าน อันโตนิโอ คอนเต มีปัญหาหนักใจพอสมควร เมื่อ ติอาโก มอตตา หมดสิทธิ์ลงเล่น เพราะติดแบน อันโตนิโอ คันเดรวา ก็ยังไม่ฟิต แถม ดานิเอเล เด รอสซี ก็เจ็บจากนัดล่าสุด

11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้ ได้แก่ จานลุยจิ บุฟฟอน ในตำแหน่งผู้รักษาประตู แผงหลังสามตัว ประกอบด้วย อันเดรีย บาร์ซาญี, เลโอนาร์โด โบนุชชี และ จอร์โจ คิเอลลินี ส่วนวิงแบ็กฝั่งขวาและซ้ายเป็น อเลสซานโดร ฟลอเรนซี กับ มัตเตีย เด ชีโญ ตามลำดับ แผงกลางสามคน ประกอบด้วย สเตฟาโน สตูราโต, มาร์โก ปาโรโล และ เอมานูเอเล จาคเครินี ส่วนแดนหน้ายังใช้งานคู่ของ กราเซียโน เปลเล กับ เอแดร์ ตามเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เยอรมนี (4-2-3-1): มานูเอล นอยเออร์; โจชัว คิมมิช, เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิคท์ ฮาวเวเดส; โทนี โครส, ซามี เคดิรา; โทมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์; มาริโอ โกเมซ

อิตาลี (3-5-2): จานลุยจิ บุฟฟอน; อันเดรีย บาร์ซาญี, เลโอนาร์โด โบนุชชี, จอร์โจ คิเอลลินี; อเลสซานโดร ฟลอเรนซี, สเตฟาโน สตูราโต, มาร์โก ปาโรโล, เอมานูเอเล จาคเครินี, มัตเตีย เด ชีโญ; กราเซียโน เปลเล, เอแดร์

ผู้ตัดสิน: วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)

สถิติที่น่าสนใจ 

- เยอรมนี มีสถิติชนะคู่แข่ง 5 ครั้งรวด ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ส่วน อิตาลี มีสถิติชนะ 2 แพ้ 2

- เยอรมนี ไม่เคยเอาชนะ อิตาลี ได้เลยใน 8 ครั้งหลังสุด ที่เจอกันในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ (แพ้ 4 เสมอ 4) โดยเกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศถึง 3 ครั้ง ซี่งก็รวมถึงใน ยูโร 2012 เมื่อสี่ปีก่อนด้วย 

- เยอรมนี เป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูในรายการนี้ และยิงไปแล้ว 5 ประตู

‘ซานเชส’ อาสาซัดโทษนำโปรตุเกสเข้ารอบยูโร2016

เรนาโต ซานเชส ดาวรุ่งจาก บาเยิร์น มิวนิค เผยเป็นคนเอ่ยปากขอทำหน้าที่สังหารจุดโทษเอง ก่อนนำ โปรตุเกส ชนะ โปแลนด์ ในการดวลจุดโทษ 5-3 หลังเสมอใน 120 นาที 1-1 เมื่อ 30 มิ.ย. 59 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ‘ยูโร 2016’ เป็นผลสำเร็จ 

นัดนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงให้ โปแลนด์ ขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม ก่อน เรนาโต ซานเชส จะตีเสมอให้ โปรตุเกส ก่อนหมดครึ่งแรก และยังรับอาสาเป็นผู้ยิงจุดโทษคนที่สองถัดจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีม ซึ่งเจ้าตัวก็ยิงไม่พลาดอีกด้วย 

“ก่อนยิงจุดโทษ โค้ชถามว่าใครจะยิงบ้าง คริสเตียโน่ เป็นคนแรก และผมก็ขอยิงเป็นคนถัดมา โค้ชไว้ใจผม ผมแค่ทำอย่างที่เคยทำ คือเลือกมุมที่จะยิงไว้ และเล็งไปที่นั่น” 

 

สถิติที่น่าสนใจ

- ประตูของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในนาทีที่ 1:40 นับเป็นประตูที่เร็วที่สุดอันดับสองของรายการ โดยสถิติปัจจุบันเป็นของ ดมิทรี คิริเชนโก ในนาทีที่ 1:07 ในเกมยูโร 2004 ที่ รัสเซีย ชนะ กรีซ 2-1

- เรนาโต ซานเชส ถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ที่ยิงได้ในรายการนี้ ขณะอายุ 18 ปี 317 วัน ตามหลัง โยฮัน ฟอนลันเธน (18 ปี 141 วัน) และ เวย์น รูนีย์ (18 ปี 237 วัน) ใน ยูโร 2004

- โปรตุเกส ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ โดยไม่ชนะคู่แข่งใน 90 นาทีแม้แต่นัดเดียว โดยเป็นการเสมอ 3 นัดในรอบแรก ชนะ โครเอเชีย 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบ 16 ทีม และชนะ โปแลนด์ ในการดวลจุดโทษ รอบ 8 ทีม