'เอ็นพีแอล' แบงก์รัฐพุ่ง 1.4 หมื่นล้านบาท

'เอ็นพีแอล' แบงก์รัฐพุ่ง 1.4 หมื่นล้านบาท

"สศค." เผย ผลการดำเนินงานแบงก์รัฐ เดือน เม.ย. พบมีกำไร 1.2 หมื่นลบ. ชี้ปัญหาภัยแล้ง-เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ทำหนี้เสียเพิ่มขึ้น 1.4 หมื่นลบ.

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFI) เดือนเม.ย.2559 พบว่า แบงก์รัฐมีกำไรสุทธิ 1.29 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่เอ็นพีแอลปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.46 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 2.51 แสนล้านบาท คิดเป็น 5.9% ของสินเชื่อทั้งหมด จากเดือนมี.ค. มียอดเอ็นพีแอล 2.36 แสนล้านบาท คิดเป็น 5.3%

ส่งผลให้บีไอเอส อยู่ที่ 12.2% จากเดือนมี.ค.อยู่ที่ 12.2% และปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 11.3% กลุ่มหนี้ที่ถูกกล่าวถึงเป็นพิเศษ หรือค้างชำระตั้งแต่ 1-3 เดือน ปรับลดลงอยู่ที่ 1.29 แสนล้านบาท หรือ 3% ของสินเชื่อรวม จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 1.38 แสนล้านบาท สัดส่วน 3.1% ของสินเชื่อรวม โดยแบงก์รัฐตั้งสำรอง 157% ของเอ็นพีแอล

สาเหตุที่ทำให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น เพราะการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น โดยสินเชื่อแบงก์รัฐเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ที่ส่งผลต่อราคาพืชผลเกษตรและรายได้ของเกษตรกร รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้อง

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า เอ็นพีแอลของแบงก์เพิ่มขึ้น ล่าสุดเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 2.4% เป็นระดับสูงสุดของธนาคาร เป็นไปตามฤดูกาลและภาวะเศรษฐกิจ หลังจากนี้เอ็นพีแอลจะค่อยๆ ลดลง เหลือ 1.8%

ส่วนนางสาลินี วังตาล ประธานคณะกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เดือน พ.ค. เอ็นพีแอลของแบงก์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 67 ล้านบาท ตามภาวะเศรษฐกิจและปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้เอ็นพีแอลรวมอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท มั่นใจสิ้นปีเอ็นพีแอลลดลงได้ตามเป้า หรือต่ำกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท