'ยาสูบ'คาดกำไรปีนี้พุ่งแตะ8พันลบ. หลังปรับขึ้นภาษี

'ยาสูบ'คาดกำไรปีนี้พุ่งแตะ8พันลบ. หลังปรับขึ้นภาษี

"โรงงานยาสูบ" ประเมินกำไรปีนี้สูงกว่า 8 พันล้านบาท ผลจากยอดขายบุหรี่ราคาถูกปรับขึ้นกว่า 13-15% หลังปรับขึ้นภาษีทำให้บุหรี่แพงขึ้น

นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของยาสูบในปีงบประมาณ 2559 นี้ จะดีกว่าคาดการณ์ หรือมีกำไรสุทธิมากกว่า 8 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีกำไรประมาณ 6.4 พันล้านบาท ตามยอดขายบุหรี่ในกลุ่มราคาถูก หรือกลุ่มเซฟวิ่ง (Saving) ที่เพิ่มขึ้น ผลจากการปรับขึ้นราคาบุหรี่ใหม่ ตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต ทำให้คนสูบบุหรี่ หันมาสูบบุหรี่ราคาถูกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่โรงงานยาสูบขายอยู่ ทั้งนี้ จากการปรับขึ้นราคาบุหรี่ในช่วงต้นปี ทำให้ยอดขายบุหรี่โดยรวมทั้งตลาดปรับลดลงจริง โดยช่วงเดือน ม.ค.ยอดขายบุหรี่รวมทั้งตลาด หรือมาร์เก็ตไซส์ลดลง 15% ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีการกักตุนบุหรี่ในช่วงที่มีการปรับขึ้นราคาบุหรี่ ขณะที่มาร์เก็ตไซส์ในเดือนพ.ค.ลดลง 13%

นอกจากยอดขายบุหรี่จะปรับลดลง การปรับขึ้นราคายังส่งผลให้ผู้ที่สูบบุหรี่ หันมาสูบุหรี่ในกลุ่มที่ราคาถูกลง จากที่เคยสูบบุหรี่ราคาแพง หรือบุหรี่นอก ก็มาสูบบุหรี่ราคากลาง คนที่สูบบุหรี่ราคากลาง ก็หันมาสูบบุหรี่ราคาถูก หรือกลุ่มเซฟวิ่ง ส่วนกลุ่มที่เคยสูบบุหรี่ราคาถูก ก็หันไปหาบุหรี่ผิดกฎหมาย หรือยาเส้นมวนเอง โดยเฉพาะจากกลุ่มราคากลาง หันมาหากลุ่มราคาถูกมีเยอะสุด ทำให้มาร์เก็ตไซส์ของกลุ่มราคากลางลดลง 13-15% ขณะที่มาร์เก็ตไซส์ของกลุ่มราคาถูกปรับเพิ่มขึ้น 13-15% มาอยู่ที่ระดับ 57% ของตลาดรวม

“เดิมคาดว่าผลจากการปรับขึ้นราคารอบล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีจะทำให้ยอดขายลดลง และกระทบกับกำไร แต่ผลออกมา แม้ยอดขายรวมทั้งตลาด จะปรับลดลง แต่ยอดขายของโรงงานยาสูบที่เป็นบุหรี่ในกลุ่มเซฟวิ่งเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามกำไรที่เพิ่มขึ้น ยาสูบก็นำส่งรายได้เข้ารัฐมากขึ้นด้วย ซึ่งกำไรที่ 8 พันล้านบาท ต้องนำส่งรัฐถึง 88%”ผู้อำนวยการยาสูบ กล่าว

การปรับขึ้นราคาบุหรี่ ส่วนหนึ่งส่งผลให้มีบุหรี่ผิดกฎหมาย หรือที่ไม่เสียภาษีสรรพสามิตสูงขึ้นตามไปด้วย จากมาร์เก็ตไซด์ที่มีการเสียภาษี 4 หมื่นล้านมวน คิดเป็นมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท คาดมีบุหรี่ผิดกฎหมาย 20% หรือ 1.6 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 8 พันล้านมวน จากช่วงปกติจะมีบุหรี่ผิดกฎหมาย 5 พันล้านมวน

สำหรับผลการดำเนินงานของยาสูบในปีงบประมาณ 2558 ยาสูบมีกำไรสุทธิ 7,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 830 ล้านบาท หรือ 13.23 % เนื่องจากกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 85 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ลดลง 745 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 586 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นลดลง 154 ล้านบาท โรงงานยาสูบนำส่งเงินรายได้ให้รัฐทั้งสิ้น 59,354 ล้านบาท เป็นเงินรายได้นำส่งรัฐ 7,757 ล้านบาท และเงินภาษีจำนวน 51,597 ล้าน
ขณะที่ มีสภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ดี มีสินทรัพย์หมุนเวียน 13,434 ล้านบาท ในขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียน 2,115 ล้านบาท คงมีเงินทุนหมุนเวียน 11,320 ล้านบาท แสดงถึงความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2557 และยังมีอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นด้วย

โรงงานยาสูบมีรายได้ทั้งสิ้น 61,984.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 เป็นจำนวน 92,68 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.15% มีรายได้หลักจากการจำหน่ายบุหรี่ 61,451.45 ล้านบาท หรือ 99.14% ของรายได้รวม ส่วนรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน 533.44 ล้านบาท หรือ 0.86% ของรายได้รวม