‘พฤกษา’ ชูกลยุทธ์นวัตกรรม ครีเอทแวลู สู่ ท็อป10 เอเชีย

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นวัตกรรม (Innovation) ที่อยู่อาศัย เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือ High Value Added มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“นวัตกรรมถือเป็นเครื่องมือการขับเคลื่อนองค์กรสำคัญ ที่จะทำให้พฤกษาเติบโตก้าวไปสู่ไปหมายอย่างรวดเร็ว รวมถึงรับมือการแข่งขันที่รุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นในโลกธุรกิจ”

การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ไม่ใช่เพียงการลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มคุณภาพบ้าน และคุณค่าของแบรนด์ นับจากก้าวแรกพฤกษาฯ นำระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตในระบบอุตสาหรรมจากประเทศเยอรมนีมาใช้ตั้งแต่ปี 2547 เพื่อลดระยะเวลาการก่อสร้าง ปัจจุบันมีพฤกษามีโรงงานผลิตชิ้นส่วนบ้านสำเร็จรูป 7 โรงงาน ใช้เงินลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีระบบ “อาร์อีเอ็ม” ซึ่งเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างระบบอุตสาหกรรม เทคโนโลยีการออกแบบ 3 มิติ BIM (Building Information Modeling) ช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน

ในกระบวนการทำงานวางกลยุทธ์ “ครีเอท แวลู” ในการส่งต่อลูกค้า ทั้งเรื่องของแบรนด์ การพัฒนาโปรดักส์ ดีไซน์ ต้องมีจุดเด่นที่ดึงดูดใจลูกค้า

“ยกตัวอย่าง หน้าที่ของพนักงานขายไม่ใช่แค่ขายบ้านหรือคอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่จะต้องทำมากกว่าหน้าที่การขาย โดยมุ่งเป้าหมายลูกค้าเป็นตัวตั้ง หากมีลูกค้าเดินเข้ามาหา 1 คน แต่รายได้อาจจะไม่ลงตัวกับโครงการนี้ ครีเอท แวลู คือ พนักงานขายจะต้องวิเคราะห์ว่าความต้องการของลูกค้าเหมาะสมกับแบรนด์ใด ทำเล ฐานรายได้ที่สามารถซื้อได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น”

ทั้งนี้ บริษัทวางกรอบเป้าหมาย 3 ด้าน ประกอบด้วย การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 1 ใน 10 ของเอเชีย, การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้า (Top of Mind Brand) และมีการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth) ในแต่ละด้านจะมีดัชนีชี้วัดที่แตกต่างกัน

โดยการชี้วัดความเป็นท็อปเทนแบรนด์อสังหาฯ ในเอเชีย คือ ตัวเลขทางการเงิน รายได้ และกำไรสุทธิ โดยวางกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน ประกอบด้วย การขยายตลาดทั้งในและต่างจังหวัด ตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน และคอนโดมิเนียมระดับล่าง

สำหรับการสร้างแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า เน้นการบริการที่จะสร้างความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุดเมื่อซื้อบ้านทั้งก่อนเข้าอยู่และหลังโอนได้อย่างไร โดยจะมีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาจากสิงคโปร์ เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ พร้อมรีแบรนด์โครงการต่างๆ เหลือเฉพาะแบรนด์เป็นที่จดจำของลูกค้า จากเดิมมีถึง 46 แบรนด์ ให้เหลือ 15 แบรนด์ พร้อมปรับปรุงกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าในทุกขั้นตอน หรือกระบวนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าใหม่ทั้งหมด

แนวทางธุรกิจของพฤกษาฯ อิงไปกับ 4 เมกะเทรนด์ของโลก ประกอบด้วย ความปลอดภัย หมายถึง บ้านที่แข็งแรง สามารถรับแผ่นดินไหวได้, การพัฒนาบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่ง 10 ปีจากนี้ ไทยจะก้าวเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัย มีประชากรสูงวัยเป็นสัดส่วนสูงเช่นเดียวกับยุโรปและญี่ปุ่น, เทรนด์บ้านประหยัดพลังงาน ได้มีการพัฒนาบ้านประหยัดพลังงานต้นแบบ “พฤกษา พลัสเฮ้าส์” สุดท้ายเทรนด์บ้านสมาร์ท โฮม บ้านที่มีดีไซน์เพิ่มความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี

“ราคาบ้านแข่งขันได้ แต่การผลิตบ้านคุณภาพที่เหนือกว่าถึงชนะ ต้องเพิ่มมูลค่าลงไปในบ้านให้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นบ้านที่ออกมาจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรแตกต่างจากคู่แข่ง”

ตามนโยบายของนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ต้องการขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่ 1 ใน 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเอเชีย ภายในปี 2562 โดยมีรายได้ระดับ “แสนล้านบาท”