วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 27 มิถุนายน 2559

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังมีการรายงานผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยผลการนับคะแนนเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 59 ปรากฏว่า จำนวนเสียงชาวอังกฤษที่ต้องการให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปชนะจำนวนเสียงชาวอังกฤษที่ต้องการให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปในอัตราร้อยละ 51.9 ต่อ 48.1 ทั้งนี้ จากผลการลงประชามติดังกล่าวส่งผลให้นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ฝ่ายสนับสนุนให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้สหราชอาณาจักรอยู่กับสหภาพยุโรป ประกาศลาออกจากตำแหน่งภายในเดือน ต.ค. 59 นี้ ซึ่งส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลต่อความเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจทั้งด้านตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันด้วย

- ทั้งนี้ ผลการลงประชามติดังกล่าว กดดันให้ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงที่มีความเสี่ยงสูงปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงปรับตัวในทิศทางแข็งค่าขึ้น และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ

- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ประจำเดือน มิ.ย. 59 ปรับตัวลงสู่ระดับ 93.5 จุด จากระดับ 94.7 จุด ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ การลดลงของดัชนีดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความกังวลต่อภาวะการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ ในปัจจุบันและในอนาต

+ อย่างไรก็ดี บริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ส รายงาน ตัวเลขหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐ สิ้นสุดสัปดาห์ วันที่ 24 มิ.ย. 59 ปรับลดลง 7 หลุม มาอยู่ที่ 330 หลุม ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มีความเห็นว่าราคาน้ำมันที่มากกว่าระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตกลับมาขุดเจาะน้ำมันดิบเพิ่มเติมอีกครั้ง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดในภูมิภาคยังคงได้รับแรงหนุนอยู่บ้างจากอุปสงค์จากประเทศอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณอุปทานที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มมากขึ้นจากประเทศมาเลเซียและจีน โดยปริมาณการส่งออกจากประเทศจีนในเดือน พ.ค. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 16% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

            ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

            ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ความไม่สงบไนจีเรียยังไม่คลี่คลาย และมีแนวโน้มที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียจะคงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ได้ก่อเหตุโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันสำคัญทางตอนใต้ของไนจีเรีย ส่งผลให้กำลังการผลิตในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีที่ราว 1.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อาจโน้มน้าวให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐ เริ่มกลับมาขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหลุมน้ำมันที่ขุดไว้แล้ว (Drilled but Uncompleted หรือ DUC ) เนื่องจากผู้ผลิตบางรายเริ่มคุ้มทุนที่จะกลับมาดำเนินการผลิตใหม่

                                                 -----------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999