'โฆษก รบ.' ย้ำวิพากษ์รธน. ได้ แต่ห้ามรณรงค์'รับ-ไม่รับ'

'โฆษก รบ.' ย้ำวิพากษ์รธน. ได้ แต่ห้ามรณรงค์'รับ-ไม่รับ'

"พล.ต.สรรเสริญ" โฆษกรัฐบาล ย้ำวิพากษ์รธน. ได้ แต่รณรงค์ “รับ-ไม่รับ” ไม่ได้ ชี้พรบ.ประชามติเขียนไว้ชัด

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณประธานมูลนิธิ กปปส. และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน กลุ่มนปช. ออกมาแสดงความคิดเห็นรับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอย่างเปิดเผยว่า ทั้งหมดต้องอยู่บนกรอบของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ต้องศึกษาให้ชัดเจนว่ากฎหมายไม่ได้หมายความจะอธิบายข้อดีข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญที่จะลงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ไม่ได้ แต่ในกฎหมายมีหลักว่าสิ่งใดทำได้ไม่ได้และมีหลักวิชาการว่าอย่างไร เพียงแต่กฎหมายบอกว่าไม่ต้องไปเชิญชวนรับหรือไม่รับ ไม่ให้พูดเกินเลยสิ่งที่เขียนเอาไว้ในกฎหมาย

“อย่ามโนไปเองว่าไอ้นั่นไอ้นี่ไอ้โน่นจะเกิดขึ้น เพราะมันไม่ใช่หลักที่จะนำมาเชื่อมโยงกันได้ จะมาบอกว่าวิพากษ์จารณ์ไม่ได้คงไม่ใช่ เพราะมันวิจารณ์ได้ว่ามันมีข้อดีไม่ดียังไง แต่ไม่ต้องเชิญชวนคนอื่นเขา อย่าไปใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นเขา อย่าไปกล่าวความเท็จ เพราะกกต.เขาวางหลักเกณฑ์ไว้แล้ว 5-6 ข้อ เพราะฉะนั้นใครจะออกมาแบบนี้ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ว่าทุกคนก็ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองตามกรอบกฎหมาย เพราะกฎหมายมีความชัดเจนอยู่ในตัวแล้ว ซึ่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)และกกต.ก็อธิบายชัดเจนหมดแล้ว”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

เมื่อถามว่าทั้งสองฝ่ายออกมาเปิดเผยชัดเจนว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญชัดเจนผ่านช่องทางสื่อของตัวเองจะกระทบต่อความสงบที่มีคำสั่งคสช.ดูแลอยู่หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มองได้หลายอย่างว่าถ้าใครตื่นตระหนกก็คงบอกว่ากระทบต่อความรู้สึก แต่ถ้าใครบอกว่าไม่กระทบแล้วบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย กกต.ก็จะดำเนินการ เพราะทุกอย่างต้องอยู่บนขอบเขตของกฎหมาย ท่านจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็เป็นความคิดเห็นของท่าน เพราะกฎหมายให้ท่านวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยหลักวิชาการว่ามีประโยชน์มีโทษอย่างไร แต่อย่าเชิญชวนให้เขามารับหรือไม้รับร่างรัฐธรรมนูญตามความคิดของท่าน หรือพูดความเท็จ ใส่ร้ายหรือเกินเลยว่าที่กฎหมายกำหนด

เมื่อถามว่าสถานการณ์แบบนี้เหมือนว่ากกต.ต้องออกมาทำอะไรสักอย่างใช่หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่อยากไปกดดันกกต. เพราะท่านรู้บทบาทหน้าที่ของท่านอยู่แล้วว่าท่านจะกำกับกฎหมายของท่านอย่างไร เราก็เชื่อว่ากกต.ก็ตรวจสอบอยู่แล้ว อะไรที่ถูกกฎหมายก็คงต้องปล่อยเพราะเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ถ้าอะไรที่ผิดกฎหมายเกินเลยก็คงแจ้งเตือน และดำเนินการตามกฎหมาย

“ไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ เพราะกกต.ท่านทราบหน้าที่ของท่านดีอยู่แล้ว”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมีความกังวลกับการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มการเมืองต่างๆหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะบอกว่าท่านนายกฯกังวลคงไม่ใช่เรื่องของความกังวล แต่ว่าท่านนายกคงมีความเป็นห่วงอยู่บ้าง และนายกฯยังมั่นใจว่ากฎหมายเขาเขียนชัดเจน และคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเข้าใจพอสมควรแล้ว เพราะสังคมไทยตื่นรู้เรื่องนี้

“ท่านนายกเป็นห่วง แต่ไมได้กังวล และมั่นใจว่าผู้รักษากฎหมายคือ กกต.กับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ คสช.ก็ยังดูแลความสงบโดยทั่วไป”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าวังวนของความขัดแย้งจะกลับมาอีกเพราะสองฝ่ายออกมาชนกันแบบนี้ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ความขัดแย้งมันเป็นเรื่องในใจ เป็นเรื่องของความคิดและหัวใจ เราคงไม่สามารถรับประกันไมได้ว่าความขัดแย้งจะกลับหรือไม่กลับมา แต่เรียนได้สองอย่างว่า คสช. เจ้าหน้าที่ราชการ กกต. ทุกคนพยายามทำหน้าที่ประคับประคองสถานการณ์ สร้างบรรยากาศเอื้ออำนวยต่อความปรองดองสมานฉันท์ เว้นแต่ว่าบุคคลที่มีความขัดแย้งอยู่ในใจจะไม่เปิดใจรับฟังคนอื่น ฟังยังไงก็จะมองว่าขัดแย้งอยู่ดี แบบนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่ที่ปรากฏในสังคมที่ยอมไม่ได้ในเรื่องของการก่อความวุ่นวาย ทำอะไรนอกกรอบกฎหมาย แบบนั้นทำไม่ได้