'แสนสิริ'มั่นใจพรีเซลคอนโดปีนี้อยู่ที่ 2.8 หมื่นลบ.

'แสนสิริ'มั่นใจพรีเซลคอนโดปีนี้อยู่ที่ 2.8 หมื่นลบ.

"แสนสิริ" มั่นใจยอดขายคอนโดปีนี้อยู่ที่ 2.8 หมื่นลบ. หลัง 5 เดือนแรกอยู่ที่ 8-9 พันลบ. รับมีคอนโดค้างสต็อกมูลค่ารวม 6 พันลบ. 90%อยู่ในตจว.

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย (พรีเซล) คอนโดมิเนียม ปีนี้ 2.8 หมื่น ล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนแรกมียอดพรีเซลแล้ว 8-9 พันล้านบาท และคาดว่าจบไตรมาส 2 ยอดขายพรีเซลจะอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 11 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้วทั้งหมด 4 โครงการ และในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 7 โครงการ แบ่งเป็น 6 โครงการร่วมทุนและอีก 1 โครงการของบริษัทฯ เช่น ในพื้นที่ประดิพัทธ์ วงศ์สว่าง ทองหล่อ และรามคำแหง

สำหรับเป้าหมายรายได้ในส่วนของคอนโฯ ปีนี้คาดอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกมีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ปีนี้ 6-7 พันล้านบาท รวมถึงมียอดรอรับรู้รายได้กับบริษัทย่อยร่วมทุนกับ BTS อีกประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้เดือนก.ย. นี้ ในโครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 71 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท คาดโอนได้ 60-70%

"ภาพรวมตลาดคอนโดฯ ครึ่งปีหลังคาดฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเริ่มใช้งบประมาณการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนค่าก่อสร้างยังอยู่ในระดับทรงตัว ซึ่งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ในระดับต่ำ มีโอกาสให้นักลงทุนหันมาซื้ออสังหาฯ เพื่อเก็งกำไรมากขึ้น เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอสังหาฯ ในไทยค่อนข้างซบเซา และขณะนี้ความต้องการซื้ออสังหาฯ เริ่มกลับมา"นายอุทัย กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีคอนโดฯ ค้างสต็อกคิดเป็นมูลค่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 90% พื้นที่ต่างจังหวัด และอีก 10% เป็นกรุงเทพฯ เฉลี่ยราคา 2 ล้านบาท ทั้งนี้คาด 1-2 ปีจะสามารถขายได้หมด โดยพื้นที่ภาคอีสานมียอดค้างสต็อกค่อนข้างมาก เช่น โครงการในขอนแก่นเหลือค้างประมาณ 20% และอุดรธานี เหลือค้างประมาณ 30% เพราะคนอีสานยังไม่คุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์คอนโดฯ ทำให้การเปิดโครงการใหม่ในต่างจังหวัดเงียบเหงามากว่า 2-3 ปีแล้ว และแผนการเปิดโครงการใหม่อาจชะลอออกไปก่อน อย่างไรก็ตามด้านหัวเมืองท่องเที่ยว ภูเก็ต เชียงใหม่ และหัวหินบริษัทฯยังสนใจศึกษาพื้นที่เพื่อเปิดโครงการเป็นระยะ

ด้านยอดขายที่ขายให้กับลูกค้าต่างชาติตั้งเป้าหมายปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่แล้วที่ 3,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 2,500 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจากฮ่องกงและไต้หวัน รวมถึงยุโรป ซึ่งในระยะต่อไปบริษัทฯจะพยายามเพิ่มลูกค้าจากจีนมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีน้อยเพียง 5% เท่านั้น