แจง!ใช้กฎอัยการศึก-ม.44 ลั่นอยู่ต่อหากบ้านเมืองยังไม่สงบ

แจง!ใช้กฎอัยการศึก-ม.44 ลั่นอยู่ต่อหากบ้านเมืองยังไม่สงบ

"พล.อ.ประยุทธ์" ชี้แจงจำเป็นใช้กฎอัยการศึก-ม.44 ซัด "พิชัย" จบอะไรมา วิจารณ์เศรษฐกิจเยอะไปหมด ลั่น พร้อมอยู่ต่อหากบ้านเมืองยังไม่สงบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในการประชุมประเทศสมาชิก กลุ่ม 77 ว่า บางครั้งมีคนต้องการตัดเสื้อตัวเดียวให้กับเรา ซึ่งในประเทศ G77 จะต้องดูว่าควรเลือกเสื้อแบบใดจึงจะเหมาะกับประชาชนของตัวเอง ตนคิดแบบทหาร ซึ่งต้องมีเป้าหมายระหว่างทาง หาหนทางปฏิบัติในสิ่งที่ไปไม่ได้ ไม่ใช่ตีกันไปตีกันมาจนติดแบบนี้ ส่วนปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องที่เสียหายอย่างร้ายแรง ประเทศไทยกำลังแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ ไม่ใช่เป็นการรังแกทางการเมือง เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ทุกเรื่องคือกฎหมายทั้งหมด และต้องเข้าใจว่าการใช้กฎอัยการศึกและมาตรา 44 ประเทศไทยมีความจำเป็นเพื่อให้เกิดความสงบ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

ดังนั้น วันนี้ที่มีการเรียกตัวบุคคลเข้ามาแล้วติดคุก นั่นเป็นเพราะมีคดีอาญาที่ทำผิดแต่เดิมอยู่แล้ว นอกจากนี้สถานการณ์ในประเทศยังไม่ปกติ หากปกติต้องเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สื่อมวลชนเองก็ไม่ปกติ จึงต้องมีกฎหมายพิเศษออกมา เพื่อให้เขาหยุด แต่ก็ปล่อยให้มีการพูด หากเปิดดูหนังสือพิมพ์ของไทยวันนี้จะเห็นว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ

“เช่น หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ไม่รู้ไปเอาความคิดมาจากไหน เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้ พอเปลี่ยนบรรณาธิการจึงเป็นแบบนี้ นี่คือคนที่เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนหลักการของตัวเอง ผมรับไม่ค่อยได้ แต่ก็คุมไม่ค่อยได้ เขาเป็นพ่อผมมั๊ง ขอโทษที่พูดแรง ฝรั่งอาจฟังไม่รู้เรื่อง เอาแค่คนไทยรู้ก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากให้ภาคธุรกิจศึกษาให้ดี อะไรที่เสียประโยชน์ต้องต่อรองให้มากที่สุด ส่วนปัญหาการท่องเที่ยว แม้ไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 30 ล้านคน แต่ก็ไม่ได้มีความสุข ตราบใดที่ยังดูแลนักท่องเที่ยวไม่ได้ ต่อให้มีกว่า 50 หรือ 60 ล้านคน ก็พร้อมจะรับ และต้องดูเรื่องมิติของสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและไกด์ ซึ่งตนรื้อทุกระบบ และเชื่อว่าหลายประเทศก็มีปัญหานี้

“ส่วนผลสำรวจการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไอเอ็มดี ที่เราถูกปรับให้ขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องง่ายใน 2 ปีที่ผ่านมา แต่บางคนบอกว่า ไอเอ็มดีเชื่อมั่นได้แค่ไหน ผมก็ปวดหัวเหมือนกัน แล้วจะเชื่อใคร ไปเชื่อนายพิชัย (นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน)เหรอ นายพิชัยเคยทำอะไรมา เรียนจบอะไรมา วิจารณ์เศรษฐกิจไทยเยอะแยะไปหมด เก่งเศรษฐกิจเหลือเกิน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อยากให้ประเทศสมาชิก G 77 อยู่กับเราด้วย ให้เป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่ม G 77 และแต่ละประเทศก็ไปทำกันเอง ต่อไปตนก็ไม่ได้อยู่แล้ว และไม่ได้เป็นประธานกลุ่มแล้ว จะอยู่ถึงหรือไม่ยังไม่รู้เลย แต่ถึงแน่นอน ไม่ต้องกลัว ตนไม่ไปไหนอยู่แล้ว ตราบใดยังไม่สงบก็จะอยู่

“พูดไปตรงนี้เดี๋ยวจะขวัญเสีย รัฐบาลไปแน่ เลิกดีกว่า แบบนี้ไม่ได้ บอกตรงนี้ ไม่สงบไม่เรียบร้อยก็ไม่ไป ไปว่ากันมา นักข่าวก็รอแค่นี้แหละ จะได้กลับบ้าน ส่วนที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้ลงหรอกเชื่อผมสิ” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องเข้าใจว่า เป็นการต่อสู้ของสื่อสิ่งพิมพ์กับสื่อออนไลน์ หนังสือพิมพ์คนไม่ค่อยซื้อแล้ว เพราะอ่านโซเซียลมากขึ้น ฉะนั้นตนก็จะไปช่วยเรดให้หนังสือพิมพ์ ภาพนายกฯขึ้นปกทุกวัน ชี้โน้นชี้นี่ ไม่ใช่ชี้เพราะใช้อำนาจ แต่เพราะติดนิสัยเป็นทหาร ชี้ถามว่าเสร็จหรือยัง มาบอกว่าตนบ้าอำนาจ ตนกลุ้มใจ แต่ไม่เป็นไร ถ้าไม่บ้าคงไม่มายืนตรงนี้ ฝรั่งอาจไม่เข้าใจ แต่ตนพูดเพราะไม่ให้เครียด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ขันเมื่อเห็นสคริปเขียนคำว่า ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในหัวข้อการสร้างมูลค่าร่วมกัน โดยบอกว่า บอกแล้วอย่าใช้คำดังกล่าว แต่ควรใช้คำว่าต้นทาง กลางทาง และปลายทางแทน เพราะคำดังกล่าวเป็นของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา น้ำถึงได้ขาด และท่วมอยู่อย่างนี้ไง