นายกฯเปิดประชุมจี77 ย้ำร่วมมือสร้างความเชื่อมั่น

นายกฯเปิดประชุมจี77 ย้ำร่วมมือสร้างความเชื่อมั่น

นายกฯประยุทธ์ เปิดประชุมจี77 ย้ำความร่วมมือจากทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ชี้ประเทศไทยขาดทหารไม่ได้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ที่ห้องฉัตรา บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมประเทศสมาชิก กลุ่ม 77 เพื่อนำเสนอการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับภาคธุรกิจ ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทของภาคเอกชนในการส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นโอกาสที่ประเทศไทยในฐานะประธานกลุ่ม 77 ณ นครนิวยอร์ก เพื่อเผยแพร่แนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในฐานะเครื่องมือหนึ่งในการสนับสนุนการอนุวัติวาระการพัฒนา โดยเฉพาะการนำเสนอมุมมองการใช้แนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในภาคเอกชน ซึ่งเอกชนหลายรายในไทยประสบความสำเร็จในการนำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในภาคธุรกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอต้อนรับผู้แทนสมาชิกกลุ่มประเทศจี 77 ซึ่งนับเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่ประธานในครั้งนี้แต่ถือว่าทุกคนเป็นประธานร่วมกัน ถือว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันทั้งสิ้น เราจะต้องเจริญเติบโตและแข็งแรงไปพร้อมพร้อมกัน โดยทุกคนจะต้องร่วมกันพาทั้ง 134 ประเทศไปพร้อมพร้อมกัน เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะต้องมาร่วมมือกัน การพัฒนาที่มีความยั่งยืน ประเทศไทยมีความพร้อมและมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับทุกประเทศ ร่วมมือและเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางด้านความมั่นคงในทุกระดับ ซึ่งความจริงประเทศไทยน่าจะรวยมานานแล้วเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นตั้งแต่ 10 ปีที่ผ่านมาแต่วันนี้ก็ยังไปได้ช้า วันนี้ทุกอย่างมีพร้อมทั้งหมดแต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี วันนี้ทุกฝ่ายต้องหาความร่วมมือกันให้ได้ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นรูปธรรม เราต้องเร่งทำงานให้เกิดขึ้นโดยเร็วเพื่อประเทศประชาชนและประชาคมของเรา อย่าลืมว่าวันนี้ปัญหาของประเทศกำลังพัฒนามีทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำความไม่เป็นธรรมและการเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่สมดุลย์ แต่รักไม่สามารถดูแลให้ทุกคนได้อย่างแน่นอนสังคมก็จะสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ขาดแรงงานและการเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเป็นแกนหลักสำคัญในการพัฒนาทุกๆด้าน 167 เป้าหมาย รัฐบาลไทยจึงได้วางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและดำเนินการตามแผนปฏิรูป ถ้าประชาชนไม่รู้อนาคตก่อนก็จะเกิดความขัดแย้งเพราะโลกไร้พรมแดนมีระบบสื่อสารที่รวดเร็ว รัฐไม่ใช่ผู้ที่จะกำหนดทุกอย่าง เราต้องพัฒนาที่ตัวบุคคลก่อนต้องปฏิรูป ว่าเราจะทำงานเพื่อใคร ตนทราบดีว่าทุกคนมีความรู้และประสบการณ์มากกว่าตน แต่ตนเป็นทหารเก่าหลายคนคิดว่าตนไม่รู้เรื่องแต่ก็ยอมรับว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ก็ใช้เวลาสองปีในการอ่านและเรียนรู้ก็พอจะรู้เรื่อง ตนจะทำทุกอย่างในสิ่งที่ทุกคนเก่งอยู่แล้วเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ลดความขัดแย้งในอนาคต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปกีดกันใคร แต่เราต้องมองอนาคตโดยประชาชนจะต้องเป็นผู้กำหนดอนาคตตัวเองบ้าง ต้องผ่านช่องทางที่ถูกต้อง แล้วแต่ว่าประเทศนั้นๆ มีการปกครองแบบใด ถ้าเป็นประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย

“ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมแต่ไม่ใช่รวมหัวกันเพื่อสร้างความขัดแย้ง ต้องรวมตัวกันเพื่อหาทางช่วยภาครัฐ การทำงานต้องมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายไม่ว่าจะคิดจะทำอะไรก็ทำ จากนั้นก็จะติดไปหมดเพราะหนึ่งไม่เคยเรียนรู้และประชาชนเองก็ไม่รับรู้มีการต่อต้านตลอดเมื่อมีคนชักนำไปในทิศทางหนึ่งทางใด เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเสียประโยชน์หรือได้ประโยชน์จากอะไรบ้าง เพราะส่วนใหญ่จะมองกันไม่พ้นตัวเอง ดังนั้นเป็นหน้าที่ที่เราจะต้องทำให้เขามองทั้งตัวเองและส่วนรวม ต้องช่วยกันสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ไม่มีทางทำอะไรได้สำเร็จ หากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือเพราะเกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจหวาดระแวงและกลัวว่าจะได้รับผลประโยชน์ที่ไม่เท่าเทียมปัญหาทั้งหมดอยู่ที่คนทั้งสิ้น แต่ถ้าเราสามารถสร้างคนที่มีธรรมาธิบาล มีคุณธรรม จริยธรรมได้ก็จะไม่เกิดปัญหาเหล่านี้ ประเทศไทยวันนี้จะต้องเดินหน้าโดยผมเป็นผู้ปฏิบัติมาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.ดูแลทหารสองแสนกว่าคนดูแลประชาชน ถ้าไม่มีทหารประเทศไทยไปไม่ได้ ในทุกวันนี้เราใช้ทหารในกันขับเคลื่อน และขอให้เข้าใจว่าผมไม่ได้มีทหารเพื่อไว้รบกับใครหรือจับกุมดำเนินคดีนักการเมือง ซึ่งความจริงการดำเนินคดีนั้น ตำรวจก็สามารถดำเนินการได้แต่ก็พยายามต่อต้านโดยใช้กลไกในด้านอื่นๆซึ่งผมไม่อยากจะพูดตรงนี้ เพราะผมต้องรบทุกวันจนหน้ายับมาถึงทุกวันนี้เมื่อคืนก็สะดุ้งตื่นตอนตีหนึ่งครึ่งเพราะตื่นเต้นที่จะได้มางานนี้และเจอปัญหาและคิดว่าวันนี้จะต้องสั่งการอะไรวันนี้ก็จะต้องสั่งอีกประมาณ 50 เรื่อง ที่ผ่านมาเกือบสามปีสั่งไปแล้ว 8500 เรื่องแต่ก็ยังไม่เสร็จนี่คือตัวอย่างของประเทศไทย ถ้าเราปล่อยปะละเลยทั้งหมดระบบบริหารราชการแผ่นดินและการเลือกตั้งล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น วันนี้การแก้ปัญหาผมไม่ได้แกเพื่อประเทศไทยหรือตัวผมเองจะขึ้นจะลงผมไม่ได้ต้องการอำนาจอะไรทั้งสิ้นเพราะผมมีอำนาจมาพอเพียงแล้ว 30 กว่าปีเกือบ 40 ปีในกองทัพแล้วผมจะต้องใช้อีกทำไม ทุกวันนี้ใช้อำนาจเพื่อการพัฒนาต่างๆให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ผมจะได้ไปๆเสียที ผมก็เบื่อหน้าตัวเองในจอโทรทัศน์ เบื่อจะตายอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายอย่างอาจจะถูกบิดเบือนทำให้เกิดความไม่เข้าใจเพราะกลไกทางการเมือง ก็มีทั้งดีและไม่ดีทำให้ความเข้าใจผิดเพี้ยนไปจนทำให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศและลามไปถึงต่างประเทศก็จะทำให้ยุ่งกันไปหมด ภาคประชาชนไม่ควรมุ่งแต่กำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียวรัฐเองก็ต้องอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆทั้งการเปิดตลาดการออกกฏหมายการสร้างความเป็นธรรมซึ่งประเทศไทยแก้ปัญหาเหล่านี้เยอะมาก ซึ่งวันนี้ทุกคนเริ่มพอใจ เราถูกกำหนดหลักเกณฑ์ด้วยโลกและขั้วต่างๆ วันนี้จึงต้องพยายามเอาสิ่งเหล่านี้มาทำให้เกิดประโยชน์โดยการรวมกลุ่มให้เกิดความแข็งแรงไม่ใช่รวม กันเพื่อสร้างความขัดแย้ง แต่ต้องรวมตัวเพื่อให้มีการรับฟัง ต้องพูดในภาษาเดียวกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่น