สินเชื่อบ้านชะลอตัว หลังหมดมาตรการหนุน

สินเชื่อบ้านชะลอตัว หลังหมดมาตรการหนุน

"ธนาคารพาณิชย์" เผยสินเชื่อบ้านชะลอตัว หลังหมดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ชี้ทำให้ประชาชนชะลอการซื้อบ้านใหม่

นายอลงกต บุญมาสุข ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจขนาดย่อม ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะเลขาธิการสมาคมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยช่วงเดือนพ.ค. มีทิศทางชะลอตัวลงจากช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา หลังจากสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ซึ่งยอมรับว่ามีส่วนทำให้ประชาชนชะลอการซื้อบ้านใหม่ลงไปพอสมควร

“ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ของภาครัฐ ที่กระตุ้นให้ลูกค้าเร่งซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และก็ดึงกำลังซื้อล่วงหน้าไปบางส่วนด้วย โดย 4 เดือนแรก ตัวเลขสินเชื่อบ้านของกสิกรไทยเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมาย15,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 50,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีนี้จะเติบโตได้ 5-6 % ใกล้เคียงกับตลาด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงต้องจับตาดูว่าเมื่อสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์แล้ว ตลาดจะเป็นอย่างไร ซึ่งเริ่มเห็นเจ้าของโครงการฯจัดโปรโมชั่นเร่งระบายสต็อกที่อยู่อาศัยที่ เหลืออยู่ เช่น การให้โอนและจดจำนองพิเศษเท่ากับช่วงมีมาตรการฯ น่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อบ้านได้เพิ่มขึ้น”

น.ส.อรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.59 มีสัญญาณลดลงอย่างที่คาดไว้ เพราะหมดมาตรการลดหย่อนค่าโอนและจดจำนอง แต่หลังจากนี้ธนาคารฯจะเสนอปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูก สำหรับลูกค้าที่มีประวัติดี เพื่อกระตุ้นยอดปล่อยสินเชื่อเพิ่ม เช่น หากลูกค้ามีรายได้ 30,000บาท ซื้อบ้านหลังละ 1.5-2 ล้านบาท และมีเครดิตดี อาจได้รับดอกเบี้ย 3.9% คงที่ 3 ปี หลังจากนั้นคิดแบบดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อยแบบทั่วไป (เอ็มอาร์อาร์) ลบ แต่ถ้าลูกค้าที่มีความเสี่ยงก็อาจคิดดอกเบี้ยสูงกว่า