น้ำท่วม-เปลี่ยนผ่านการเมืองทำจีดีพีเมียนมาหด

น้ำท่วม-เปลี่ยนผ่านการเมืองทำจีดีพีเมียนมาหด

ธนาคารโลกรายงานว่า น้ำท่วมใหญ่และความไม่แน่นอนในการเปลี่ยนผ่าน ทำให้เศรษฐกิจเมียนมาขยายตัวลดลง

ธนาคารโลกระบุว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเมียนมา ที่ครั้งหนึ่งเคยน่าทึ่งที่สุดในโลก กลับลดลงหลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ และความไม่แน่นอนในการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองฉุดให้การลงทุนชะลอตัว

ธนาคารโลกคาดการณ์ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของเมียนมาระหว่างปีงบประมาณ 2558/2559 ขยายตัว 7% ยังถือว่าเป็นแถวหน้าในบรรดาประเทศที่กำลังเติบโตเร็วที่สุดของโลก แต่ถดถอยลงจาก 8.5% เมื่อปีก่อนหน้า เดิมทีธนาคารโลกคาดว่า ปีงบประมาณ 2558/2559 เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวที่ 8.2% ซึ่งทางการเมียนมาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาโดยรวม ธนาคารโลกมองว่าเศรษฐกิจเมียนมายังคงแข็งแกร่ง

ปัจจุบันเมียนมากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ หลังจากถูกรัฐบาลทหารปกครองมานาน แต่ธนาคารโลกกล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อปีก่อนได้ฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากทำให้นักลงทุนกังวลระหว่างรอให้สถานการณ์เปลี่ยนผ่านลงตัว

ผู้จัดการธนาคารโลกประจำเมียนมา "นายอับดุลเลย์ เซค" กล่าวว่า ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจเมียนมาผ่อนคลายลงเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเพื่อประชาชน"

ธนาคารโลกระบุด้วยว่า ฝนในฤดูมรสุมที่ตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วภาคตะวันตกและภาคกลางของประเทศ เมื่อฤดูร้อนที่แล้วทำลายผลิตภาพและการส่งออก ส่วนข้อจำกัดด้านโครงสร้างที่มีมาอย่างต่อเนื่อง แรงกดดันอัตราแลกเปลี่ยนในระยะสั้น และเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจด้วย

ส่วนรัฐบาลพลเรือนของนางอองซาน ซูจี นั้นจะต้องเผชิญกับภารกิจอันหนักหน่วง เมียนมาเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย ซึ่งขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน เกิดความขัดแย้งบริเวณพรมแดนซึ่งมีทรัพยากรมั่งคั่ง แถมกองทัพยังคงมีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งระบบพวกพ้องที่เติบโตมาตั้งแต่ยุคทหารปกครองบ้านเมือง ก็ยังมีอิทธิพลอย่างมากในธุรกิจเมียนมา