ส่งตัว6วัยรุ่น คดีข่มขืนเข้าสถานพินิจฯ ยะลา

ส่งตัว6วัยรุ่น คดีข่มขืนเข้าสถานพินิจฯ ยะลา

ส่งตัว 6 วัยรุ่นรุมโทรมสาววัย 25 ปี เข้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ยะลา ในขณะที่ พัฒนาสังคมฯยะลา รุดให้การช่วยเหลือเหยื่อสาว

จากกรณีที่มีคดีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คน ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์และรุมกระทำชำเราทำร้ายร่างกาย หญิงวัยอายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านขายของในตัวเมืองยะลา เหตุเกิด เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 26 พค.59 ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมดจำนวน 6 ราย โดยเป็นการติดตามจับกุมตัวจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในปั้มน้ำมันใกล้ที่เกิดเหตุ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเยาวชนที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุทั้งหมด หลังจากที่ ผู้เสียหายได้ชี้ตัวแล้ว ได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยศาลจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่ง ตามคำสั่งแจ้งของศาลจังหวัดยะลา ที่ ตจ.63/2559 และ ตจ.64/2559 ให้ส่งตัวเยาวชนในคดีทั้งหมดจำนวน 6 ราย ฝากควบคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา ในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการคัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด

นายบุญถิ่น พุทธสุภะ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ยะลา เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของศาลในการรับตัวเยาวชนทั้งหมดจำนวน 6 ราย ซึ่งอายุต่ำสุดเพียง 15 ปี ไว้ในการดูแล และทำตามขั้นตอนของสถานพินิจฯ ในการดูแล อบรม และส่งนักส่งเสริมสุขภาพจิต เข้าไปดูแลเยาวชนในคดีดังกล่าวแล้ว ตามขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งรอให้ครบตามกำหนดฝากควบคุมตัวของศาลจำนวน 30 วัน หลังจากนั้น ก็จะส่งตัวต่อไปยังสถานพินิจฯ จังหวัดปัตตานี เพื่อทำการดูแลต่อไป

“ในขั้นต้นจากการตรวจสอบสุขภาพร่างกาย ของเยาวชนทั้งหมดจำนวน 6 ราย พบสารเสพติด ฉี่เป็นสีม่วงเพียง 1 ราย เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่นเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายฝ่ายต้องช่วยกันสอดส่องดูแล โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว ผู้ปกครอง ต้องดูแลเยาวชน บุตรหลานอย่างใกล้ชิดไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเมื่อเยาวชนไปใช้สารเสพติดแล้วก็จะเข้าสู่สังคมที่ถูกเพื่อนชักชวนกันไปกระทำในสิ่งที่ไม่ดีย โดยที่ผ่านมา เยาวชนที่ถูกส่งตัวดำเนินคดีเข้าสู่สถานพินิจฯ พบว่า มีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาเป็นอันดับต้น ๆ และเพิ่มขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ ปัญหาครอบครัวแตกแยกก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เด็ก ๆ และเยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองค่อยแนะนำให้ใส่ใจในตัวของบุตรหลาน จึงอยากจะฝากให้ผู้ปกครอง และสถานบันครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันหลักค่อยดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยปะละเลยให้ออกเที่ยวเตร่ในยามค่ำคืน หรือยามวิกาล อันจะนำไปสู่การก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาในภายหลัง” นายบุญถิ่น กล่าว

ด้านนายสุดา สุหลง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา ได้ประสาน นางสาวพารีด๊ะ เบ็ญหะยียูโซ๊ะ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ โรงพยาบาลยะลา โดยศูนย์ OSCC (ศูนย์พึ่งได้) ก็ทราบว่าผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของศูนย์ดังกล่าวเป็นการเบื้องต้นแล้ว โดยแพทย์ได้มีการตรวจร่างกายสามารถทราบผลการตรวจร่างกายภายในวันพุธที่ 1 มิถุนายน 2559 นี้ และจะได้มีการประชุมทีมสหวิชาชีพทั้งหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอกเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือทั้งระยะสั้นและระยะยาวในเรื่องของกาย จิต สังคม

“ตนได้ออกเยี่ยมเยียนพร้อมให้การช่วยเหลือพร้อมสอบถามข้อเท็จจริง ให้คำแนะนำและคำปรึกษาในการดูแลตัวเองและฟื้นฟูสภาพจิตใจ รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2 พันบาท เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นและดำเนินการติดตามให้การเยียวยาจิตใจพร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว” นางสุดา กล่าว