อินโดฯใช้เงินสดแทนบัตร หลังรัฐออกกฎขอข้อมูลธุรกรรม

อินโดฯใช้เงินสดแทนบัตร หลังรัฐออกกฎขอข้อมูลธุรกรรม

ชาวอินโดนีเซีย หันมาใช้เงินสดมากขึ้นหลังรัฐบาลอินโดนีเซียออกกฎแกะรอยการทำธุรกรรมบัตรเครดิตเพื่อหาทางปราบปรามการเลี่ยงภาษี

ชาวอินโดนีเซียหันมาใช้เงินสดมากขึ้นหลังรัฐบาลอินโดนีเซียออกกฎแกะรอยการทำธุรกรรมบัตรเครดิตเพื่อหาทางปราบปรามการเลี่ยงภาษี ทำให้ความพยายามของรัฐบาลยุ่งยากขึ้น

ข้อมูลของธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่า มูลค่าการทำธุรกรรมบัตรเครดิตลดลง 4% ในเดือนเมษายนเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 ปี ส่วนจำนวนการทำธุรกรรมบัตรเครดิตก็ลดลง 2 ล้านครั้งในเดือนเมษายนเทียบกับเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ 23.7 ล้านครั้ง

ด้านนายเออร์วิน การ์ยารองผู้อำนวยการบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ "เรย์ ไวท์" ในกรุงจาการ์ตาเปิดเผยว่า บรรดาลูกค้าเริ่มใช้เงินสดแทนบัตรเครดิตในการจ่ายค่าธรรมเนียมจองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงเงินดาวน์ที่จ่ายก่อนชำระค่าอสังหาริมทรัพย์งวดแรก เนื่องจากลูกค้าไม่ต้องการเสี่ยงรูดบัตรจ่ายค่าธรรมเนียม 10-25 ล้านรูเปี๊ยะห์ หรือราว 20,000-50,000 บาท

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลอินโดนีเซียออกกฤษฎีกาฉบับใหม่ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการบัตรเครดิตแจ้งรายละเอียดการทำธุรกรรมนับถึงวันที่ 31 พฤษภาคมให้กับกรมสรรพากรซึ่งรายละเอียดดังกล่าวรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าและร้านค้าเพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐ รวมทั้งต่อสู้กับการฟอกเงิน การทุจริต และการให้เงินสนับสนุนการก่อการร้าย