MORNING CALL ACTION NOTES (30 พ.ค.59)

MORNING CALL ACTION NOTES (30 พ.ค.59)

ผันผวนอิงทางบวก

SET วันก่อนปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน และ ICT หลังการประมูลคลื่น 900 MHz มีความชัดเจน ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,412.67 จุด (+11.03 จุด) Vol. 3.9 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +2,646 ลบ. , Net TFEX +12,382 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ +44.93 จุด จากตัวเลข GDP Q1/59 ของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 0.8% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 0.5%

+/- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต

+/- ราคาน้ำมันทรงตัวล่าสุด 49.4 USD/Barrel จากข่าวแคนาดาเริ่มกลับมาผลิตน้ำมัน หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่า

+/- ผู้นำ G7 เตือนว่า การออกจากสหภาพยุโรป (อียู)ของอังกฤษในเดือนหน้าจะคุกคามอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันสัญญาว่าจะดำเนินนโยบายอย่างจริงจังมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการเติบโตทั่วโลก

- ภาคธนาคารของจีนมี NPL เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังสามารถควบคุมความเสี่ยงได้

- ความกังวล FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการะประชุม 14-15 มิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันทีทรงตัวระดับสูงใกล้ 50 USD/Barrel และ GDP Q1/59 ของสหรัฐฯสูงกว่าประมาณการ อย่างไรก็ตามอาจมีแรงขายรอบสั้นๆจากความกังวล FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นประเมินว่า SET จะผันผวนอิงทางบวกโดยมีแนวต้าน 1,420 จุด

*** ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day

*** 2 มิ.ย. ติดตามรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ของ FED

กลยุทธ์การลงทุน

แนะนำซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน

- กลุ่มเหล็ก ราคาเหล็กรีดร้อนทำ High ล่าสุด 608 USD/Ton (+66% YTD)

- IVL ราคาฝ้าย +15% YTD ล่าสุด 64.4 USD/Tons

- กลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวใกล้ 50 USD/Barrel

- กลุ่มน้ำตาล ราคาน้ำตาลขึ้นทำ High ล่าสุด 17.7 USD/Ton

- หุ้นเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard Index รอบใหม่: ROBINS EGCO และ MSCI Global Small Cap index : DNA GL S มีผล 31 พ.ค.


หุ้นแนะนำพิเศษ

CK  ราคาปิด 24.70 บาท   แนะนำซื้อราคาเหมาะสม 32 บาท

- ปรับประมาณการกำไรปี 59 เพิ่มขึ้นเป็น 2,421 ล้านบาท (+10%YoY) เพราะคาดว่าจะรับรู้งานส่วนเพิ่มจากเขื่อนไซยะบุรีอีก 1.4 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ทำให้เป้ารายได้ก่อสร้างอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท

- คาดว่าไตรมาส 2 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของ CK เนื่องจากเริ่มรับรู้งานส่วนเพิ่มของไซยะบุรีตามที่กล่าวไปแล้วและได้รับเงินปันผลจาก TTW ราว 230 ล้านบาทช่วยหนุนผลประกอบการ

- งานภาครัฐมีความคืบหน้ามากขึ้นทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง มอเตอร์เวย์บางประอิน-โคราช และบางใหญ่-กาญจนบุรีที่เปลี่ยนรูปแบบเป็น Public Private Partnership (PPP) ซึ่งให้เอกชนมาร่วมลงทุนคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในปลายปีนี้ และสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเปิดประมูลปลายเดือน มิ.ย. มูลค่ารวมรวม 2.5 หมื่นล้านบาท

หุ้นมีข่าว

- ประเด็นบวก - PTT รมว.พลังงาน เผยกลุ่ม ปตท.พร้อมเข้าลงทุนแหล่งอาทิตย์หากเชฟรอนขาย

- ADVANC เป็นผู้ชนะประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ที่ราคา 75,654 ล้านบาทและไม่มีผู้แข่งราคา เนื่องจากเป็นผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียว กำหนดชำระเงินงวดแรกภาย 24 ส.ค.59 ผู้บริหาร AWN บริษัทผู้เข้าประมูลคาดว่าน่าจะนำเงินมาวางไม่เกิน 30 มิ.ย. เพื่อป้องกันซิมดับ ผู้บริหารยืนยันว่าในปีนี้บริษัทยังสามารถจ่ายเงินปันผลในอัตรา 100%

- SPALI (ปิด 19.80 ซื้อ ราคาเหมาะสม 25) ผู้บริหารเปิดเผยว่า แนวโน้มยอดโอนใน Q2/59 จะสูงกว่า Q1/59 ที่มียอดโอนได้ 6.27 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองทำให้ลูกค้าต่างเร่งโอนโครงการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดโอนในเดือน เม.ย.59 เพียงเดือนเดียวอยู่ที่ 5 พันล้านบาท สูงกว่าทั้งไตรมาส 1/59 และเป็นตัวเลขยอดโอนในเดือนเดียวที่สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมา โดยเฉพาะวันที่ 28 เม.ย.59 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของมาตรการมียอดโอนอยู่ที่ 1 พันล้านบาท

- ความเห็น : แนวโน้มกำไร Q2 เพิ้มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ทำได้ 1.4 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นจาก 2Q58 ที่ทำได้ 965 ล้านบาท ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ P/E 6.9 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

- ประเด็นบวก - BEM ในปีนี้บริษัทคาดว่าธุรกิจรถไฟฟ้าจะมีกำไรนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา 12 ปี เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน จะเริ่มให้บริการในวันที่ 6 ส.ค.59 เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมในเดือน ธ.ค.59

- บมจ.อาม่า มารีน (ในกลุ่ม PTG) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางทะเล และให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางบก แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เพื่อเข้าตลาด MAI ระดมทุนขยายธุรกิจโลจิสติกส์

- IFEC มีแผนนำ"ดาราเทวี"เข้าจดทะเบียนใน SET, คาดรายได้ปีนี้นิวไฮ

- RATCH เซ็นสัญญาซื้อขายไฟโรงไฟฟ้าพลังงานลมร่วมทุนในออสเตรเลีย 180 เมกะวัตต์ รับรู้รายได้ยาวถึงปี 2573 คาด COD เดือน ก.ย.2561 ประกาศเดินหน้าลุยลงทุนพลังงานทั้งในและต่างประเทศ

- TSF เผยชนะคดีกรมประชาสัมพันธ์ผิดชำระค่าจ้างผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ศาลฏีกาพิพากษา ยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้กรมประชาสัมพันธ์ชำระหนี้ 23.66 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยรวม 38 ล้านบาท (ทันหุ้น)

- PTT ให้ TRC หยุดงานชั่วคราวในพื้นที่เกิดเหตุไฟลัดวงจรช่วงย้ายอุปรณ์ในโครงการขยายอายุการใช้งานท่อก๊าซฯบนบก


ส่องหุ้น

- BWG แนวรับ 1.85-1.84 บาท แนวต้าน 1.90 , 2.00 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้งและทำ New high ในรอบ 3 เดือนพร้อมปริมาณวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้น หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดเส้นดังกล่าวแถวๆ 1.85-1.84 บาทซะก่อน จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high แถวๆ 1.90 บาทและ 2.00 บาทต่อไป

- DCON แนวรับ 0.64-063 บาท แนวต้าน 0.67 , 0.70-0.71 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 , 10 และ 25 วันได้อีกครั้ง หลังจากในช่วงต้นสัปดาห์ระดับราคาไม่หลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน และ MACD เริ่มดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้อีกครั้ง หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 0.64-0.63 บาทซะก่อน จึงจะมีลุ้นดีดกลับต่อแถวๆ 0.67 บาทและ 0.70-0.71 บาทต่อไป

- IVLแนวรับ 32.75-32.50 บาท แนวต้าน 34.50-35.00 , 39.00 บาท  ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 2 สัปดาห์และมีวอลุ่มซื้อสูงมากต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันระดับราคาขยับออกไปเล่นนอกกรอบ BollingerTop เล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 32.75-32.50 บาทซะก่อน จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 34.50-35.00 บาท ก่อนเพิ่มลุ้นต่อแถวๆ 39.00 บาทต่อไป


ตลาดหุ้นดาวโจนส์ +44.93 จุด

- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด หรือ +0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด หรือ +0.65% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.43% ทั้งนี้นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กีเดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกมีการขยายตัวได้ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้น

ตลาดน้ำมัน NYMEX -0.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.33 ดอลลาร์/บาร์เรล จากข่าวที่ว่าแคนาดาเริ่มกลับมาผลิตน้ำมัน หลังจากที่แหล่งผลิตน้ำมันได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย