'ประยุทธ์' วอนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง สร้างจิตสำนึกคนไทย

'ประยุทธ์' วอนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง สร้างจิตสำนึกคนไทย

"พล.อ.ประยุทธ์" วอนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ระบุจะเป็นการสร้างจิตสำนึกให้คนไทย ลั่นตั้งแต่ปีนี้เป็นการเริ่มต้นการกำจัดขยะของประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ“คืนความสุขให้คนในชาติ” ถึงการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย ว่า สำหรับเรื่องของการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยอย่างเป็นรูปธรรม ผมก็เร่งมา 2 ปีแล้วนะ ก็ยังมีผลไม่ได้มากเท่าที่ควร ตนกังวลเรื่องนี้็ก็ได้เร่งรัดมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทยได้มีการบูรณาการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะตามแนวทางประชารัฐ ระยะ 1 ปีโดยใช้หลักการ 3R คือการ ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่นะนะครับ มีเป้าหมายเพื่อจะลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศลงร้อยละ 5 จากการเกิดขยะมูลฝอย อัตราเฉลี่ยนะครับ หรือลดลง 2 ล้านตันต่อปี ให้เหลือประมาณ 23 ล้านตันต่อปีก็คงต้องขอความร่วมมือจากทุกกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน ศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้า และสถานประกอบการต่างๆ เป้นต้น ช่วยกันรณรงค์ การคัดแยกขยะมูลฝอยมันต้องเริ่มจากการทิ้งขยะก่อน สร้างจิตสำนึกการทิ้งขยะของคน การใช้สิ่งของหรืออะไรที่มันย่อยสลายได้ยาก เช่นถุงพลาสติกต้องลดลงให้ได้ ผมมีนโยบายไปว่าจะต้องลดถุงพลาสติกไปเท่าไหร่ในแต่ละเดือน แต่ละเดือน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอความกรุณาช่วยกันทบทวน ถ้าท่านไม่ช่วยตน ไม่ช่วยรัฐ ไม่ช่วยคนเก็บขยะ มันก็จะซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แบบนี้ แล้วเราก็จะมาปรับกระบวนการ ในตรงกลาง ในการเก็บขยะ ในการที่จะนำไปสู่การฝังกลบ หรือนำมาใช้ในเรื่องของการเป็นพลังงานเหล่านี้ รัฐบาลจะได้ทำได้เต็มที่ สอดคล้องกับต้นทางก็คือ การทิ้งขยะ ลดการใช้ถุงพลาสติก และก็มีการคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง แล้ววันนี้ตนก็เห็นเด็กๆ หลายกลุ่ม เค้าคิดในเรื่องของการทำให้ขยะมีมูลค่าก็มีเครื่องต่างๆติดตั้งอยู่ตามศูนย์การค้าต่างๆก็มีอยู่พอสมควร คือเอาขยะ เอาแก้วน้ำ ขวดน้ำพลาสติกเนี่ยไปแลกออกมาเป็นเงิน ไปใช้ใช้จ่ายได้ นี่ก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่ง มันเป็นเพียงแต่ตัวอย่างเดียว อย่างอื่นเนี่ยสำคัญ ขยะที่แต่ละคนผลิตออกมาต้องลดลง ทำอย่างไร อย่าใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย สิ้นเปลือง ถุงพลาสติกใช้จนเลอะเทอะเปรอะเปื่อนไปหมด อันที่สองคือกล่องโฟมที่ใส่เศษอาหาร ใส่อะไรเหล่านี้พอทิ้ง เขระลงไปข้างล่าง มันต้องนึกถึงคนเก็บขยะเขาด้วยนะ เขาก็ไม่ค่อยอยากเก็บมันสกปรกไง

“ เราต้องนึกถึงคนในทุกอาชีพ เผื่อแผ่แบ่งปัน มีจิตสำนึก นึกถึงเขาบ้าง ไม่ใช่เออเขาก็ไม่อยากเก็บ เราก็จะทิ้งไป มีหน้าที่ของเขา เขาไม่เก็บเราก็ว่าเขา ไอ้แบบเนี้ยมันไปไม่ได้หรอกนะ ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนนะ จิตสำนึกของทุกคนในสังคมนะ เพื่อจะลดปริมาณขยะมูลฝอย ให้เหลือไปจัดการน้อยที่สุด ก็ต้องไปแก้ทั้งต้นทาง คนทิ้งใช่มั้ย กลางทางคือคนที่จะขนไปทิ้ง อันที่สามก็จุดที่จะทิ้ง ไปทิ้งเพื่อทำอะไร อะไร reuse อะไรฝังกลบ อะไรเผา ทุกอย่างมันต้องต่อเนื่องเชื่อมโยงอย่างนี้ที่ผ่านมาน่ะ มีปัญหาอย่างนี้ ทำไมมันช้า หลายคนตอบว่า รัฐบาลนี้ไม่แก้ไข ก็มันจะแก้ได้อย่างไรล่ะ กฎหมายขยะเนี่ยมันยังไม่ชัดเจน ที่ผ่านมาหลายกระทรวง รับผิดชอบคนละท่อน คนละท่อนหมด มันทำไม่ได้หรอก วันนี้ก็มาแก้ไขพระราชบัญญัติขยะ ก็กำลังเร่งดำเนินการอยู่ วันนี้อยากให้ไปดูว่าต้นทางช่วยกันได้ยังไง พอกลางทางเนี่ย ความคิดของผม วันนี้มีระบบบริหารจัดการขยะอยู่แล้วซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ทำยังไง เราจะใช้เอ๊าท์ซ้อส มาเสริมได้ไหม ค่าใช้จ่ายจะทำยังไง จะแยกเป็นพื้นที่สำคัญก่อนได้มั้ย ที่จะมีการบริหารจัดการโดยใช้เอ๊าท์ซ้อส แต่ปัญหาก็คือว่า ค่าใช้จ่ายมันก็ต้องเพิ่มขึ้น ถ้าเราไม่นำร่องแบบนี้ หรือไม่ทำแบบนี้ ไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะว่าปริมาณ งบประมาณจากค่าขยะเนี่ยมันน้อยมาก การที่จะพัฒนาให้เค้าแยกรถ หรือจัดที่ทิ้งให้มันมากขึ้น แยกขยะให้ได้ มันก็ต้องไปรวมกันอยู่ดี ถ้าเราไม่มีงบประมาณให้เค้า เห็นใจเค้าบ้าง งั้นมันจะเห็นใจได้ แก้ไขได้ โดยที่ตัวเราเอง หรือสถานประกอบการต่างๆ นะครับ ต้องช่วยกันลดขยะให้ได้ รณรงค์หน่อยสิครับ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เป็นปีแห่งการกำจัดขยะมูลฝอยในประเทศไทยให้ลดลงให้มากที่สุดจะ 30 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ อะไรก็ได้ ปี 59 -60 ช่วยทำกับผมหน่อย ก็ถือว่าเป็นการทำความดีเพื่อปีมหามงคลก็แล้วกัน ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้าเราลดขยะไป ค่าบริหารจัดการขยะเราก็จะไม่ต้องเพิ่มเติมมากนัก มันก็จะได้ไม่ใช้เป็นภาระของหน่วยงานที่จัดเก็บ เราไปแก้ตรงปลายทางซิว่า ตกลงเราจะทำยังไง วันนี้ใครรับผิดชอบอยู่ ท้องถิ่นบ้าง เทศบาลมั่ง มันมีการบริหารจัดการขยะปลายทาง ซึ่งวันนี้มันอาจจะใช้ไม่ได้มากนัก ก็มาทำให้มันทันสมัยขึ้นขอความร่วมมือ รณรงค์ลดรับถุงพลาสติก โดยนำถุงผ้าไปจ่ายตลาดหรือซื้อของจากห้าง สามารถทำได้ทุกวันต่อไปสถานการณ์โลก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภัยพิบัติ การก่อการร้าย และโลกไร้พรมแดน เศรษฐกิจ 4.0 ภัยแล้ง อุทกภัย เหล่านี้ มันเชื่อมโดยงกันทั้งสิ้น นะครับ โครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น จะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยง กับทุกมิติที่กล่าวเมื่อสักครู่ ก็ไม่อยากให้เรามองกันเองว่า เศรษฐกิจเราล้มเหลว คนมีรายได้น้อยลง ลองมองย้อนกลับมาว่าประเทศไทย มีประชาชนประกอบอาชีพอะไรบ้าง รายได้มากน้อยต่างกันอย่างไร เราได้สร้างความเข้มแข็ง มีการพัฒนาขีดความสามารถตนเองให้เค้าอย่างไร ในระดับประชาชนทำบ้างหรือไม่ หากยังคงทำงานหนักแต่รายได้น้อย เพราะว่าราคาสินค้ามันตกต่ำ เราไม่มีการเตรียมการหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางด้านนวัตกรรม มันก็ไม่สามารถจะสร้างมูลค่าการผลิตได้ ราคามันก็ตกต่ำแบบนี้นะครับ หรือเราไม่สร้างความต่อเนื่อง ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ผลิต แปรรูป การตลาด ให้มันต่อเนื่อง โดยต้องเชื่อมโยงทั้งภาคประชาชน ภาคการเกษตร ทุกเกษตรเลยนะครับ ทุกธุรกิจก็ได้ ใช้หลักการอันเดียวกัน มันต้องเชื่อมโยงให้ได้ จากผู้ผลิต ผู้แปรรูป เพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรมและการตลาด ที่กว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ