สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 23-27 พฤษภาคม 2559

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 23-27 พฤษภาคม 2559

“เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเฟด”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาทแข็งค่ากลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหวในด้านอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงแรก ท่ามกลางถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งสะท้อนโอกาสของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ในการประชุมเฟดรอบใกล้ๆ นี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถฟื้นตัวกลับมาในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ เผชิญแรงขายจากนักลงทุนเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในช่วงคืนวันศุกร์

- สำหรับในวันศุกร์ (27 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.66 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 35.68 บาทต่อดอลลาร์ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (19 พ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 พ.ค.-3 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.50-35.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศ อาจอยู่ที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเม.ย. และข้อมูลเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ของไทย ขณะที่ ประเด็นสำคัญสำหรับตลาดการเงินทั่วโลกยังเป็นสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญประกอบด้วย ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนพ.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE price index) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง การค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย. และดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค. ของประเทศชั้นนำอื่นๆ รวมถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก หลังการประชุมของกลุ่มโอเปคด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

- ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเฟดลง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,412.67 จุด เพิ่มขึ้น 1.93% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 20.04% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 36,855.19 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 528.71 จุด เพิ่มขึ้น 1.43% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันจันทร์ จากความกังวลว่าอิหร่านอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดลงบางส่วน ท่ามกลางข้อมุลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี ขณะที่ปริมาณน้ำมันคงคลังสหรัฐที่ปรับลดลงหนุนการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ การบรรลุข้อตกลงในการให้เงินช่วยเหลือกรีซก็เป็นอีกปัจจัยหนุนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุน 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (30 พ.ค.- 3 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,400 และ1,385 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,430 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด และข้อมูลการจ้างงานสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ประกอบด้วย ข้อมูลภาคการผลิต (ISM Manufacturing) และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ข้อมูล PMI ของจีน