'คลัง'เปิดลงทะเบียน 'Any ID' 15 ก.ค.นี้

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ National E-Payment ครั้งที่ 3/2559 ว่า สำหรับโครงการแรก คือ ระบบการชำระเงินแบบ Any ID ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ประชาชนจะสามารถลงทะเบียนผูกเลขบัตรประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่กับบัญชีเงินฝากธนาคาร เพื่อใช้ในการรองรับการโอนเงินแทนการใช้เลขที่บัญชีธนาคาร และคาดว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้จะสามารถให้บริการโอนเงินได้

ส่วนโครงการที่ 2 คือ การขยายการใช้บัตร หรือ การจัดตั้งเครื่องอีดีซี กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้มีการติดตั้งเครื่องรับบัตรและอุปกรณ์ชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับร้านค้า และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้สามารถชำระเงินด้วยบัตรได้เพื่อสนับสนุนการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นวงกว้าง โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มติดตั้งและใช้เครื่องตามร้านค้าต่างๆได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ และคาดว่าจะทั่วประเทศภายในมกราคม 2560 เป็นต้นไป

ด้านโครงการที่ 3 ระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างเตรียมแก้ไขกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รองรับการพัฒนาระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt ซึ่งคาดว่าจะเข้าครม.ได้ในเดือนมิถุนายนนี้ และจะพร้อมใช้งานได้ในปี 2560

“เรื่องภาษีจะทำให้เกิดความรวดเร็ว โดยกระบวนการยื่นภาษีนั้นจะเริ่มที่รายใหญ่ก่อนอาจจะเริ่มได้ในสิ้นปีนี้ รายกลางลงมาจะเป็นปีหน้า รายเล็กจะมีเวลาอีก 1 ปีหรือเริ่ม 1 ม.ค.62 ท้ายที่สุดระบบภาษีจะเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ทั้งภาษีที่ยื่นจ่ายและขอรับคืน ในระบบของแวตเอง สรรพากรเองก็จะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่างจะทำให้รับแวตได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สามารถคืนได้ตรงเวลา และรวดเร็วขึ้น ภาษีหัก ณ ที่จ่าย จะทำเช่นเดียวกัน ให้ผู้ประกอบการสะดวกขึ้น”นายอภิศักดิ์ กล่าว

ส่วนโครงการที่ 4 คือ e-Payment ภาครัฐ กรมบัญชีกลางร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม พัฒนาระบบการรับจ่ายเงินภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์และส่งเสริมการรับจ่ายเงินของหน่วยงานภาครัฐ ให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้หน่วยงานภาครัฐสามารถรับจ่ายเงินผ่านช่องทางดังกล่าวได้ภายในเดือนธันวาคม 2559 และเริ่มโอนเงินสวัสดิการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารได้ในเดือนกันยายนนี้ด้วย

ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะช่วยประหยัดต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 ล้านบาท

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของระบบที่จะดำเนินการนั้น คาดว่าในการขอคืนภาษีบุคคลธรรมดานั้น จะมีการโอนเงินผ่านช่องทาง Any ID ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ 1 มกราคม 2560