'วิรไท' ยอมรับส่งออกทั้งปีนี้ติดลบ 2%

'วิรไท' ยอมรับส่งออกทั้งปีนี้ติดลบ 2%

"วิรไท" ผู้ว่าฯ ธปท. ระบุ ส่งออกเดือนเม.ย. ติดลบ 8% เป็นไปตามคาด เหตุมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ยอมรับทั้งปีติดลบ 2% พร้อมจับตาใกล้ชิด

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การส่งออกเดือนเมษายนติดลบร้อยละ 8 นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ประหลาดใจกับตัวเลขที่ออกมา เพราะเดือนเมษายนมีปัจจัยเฉพาะเป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ทำให้มีคำสั่งซื้อและผลิตล่วงหน้าไปแล้ว ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันและปิดโรงกลั่นที่สำคัญหลายที่ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์มีการปรับโครงสร้างการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ และการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ จึงเป็นปัจจัยชั่วคราวที่ส่งผลถึงการส่งออกไปถึงเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ธปท.จะติดตามตัวเลขการส่งออกและตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อทบทวนต่อไป แต่ยังยอมรับการส่งออกของไทยปีนี้ยังติดลบร้อยละ 2

นายวิรไท กล่าวว่า ปัจจัยที่จะต้องระมัดระวังและมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนให้ผันผวน คือ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเฟดจะพิจารณานโยบายการเงินจากข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก ดังนั้น ระหว่างนี้จะมีความผันผวนต่อตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งผู้ประกอบการต้องปิดความเสี่ยง เพราะค่าเงินบาทมีโอกาสเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง ทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า แม้ว่าค่าเงินบาทในปัจจุบันยังเคลื่อนไหวอยู่ระดับเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค พร้อมยืนยันภาพรวมเศรษฐกิจไทยไม่น่ากังวล เนื่องจากไทยมีความแข็งแกร่งด้านต่างประเทศ โดยมีเงินกู้ยืมต่างประเทศจากรัฐและเอกชนระดับต่ำ ต่างชาติถือครองพันธบัตรไทยน้อย สภาพคล่องในระบบมีสูงเพียงพอหากนักลงทุนต่างชาติไถ่ถอนพันธบัตรหรือเงินทุนไหลออกก็ไม่มีปัญหา ยังเพียงพอต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวต่อเนื่อง

สำหรับกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แสดงความเป็นห่วงเรื่องการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ กนง.พร้อมติดตามใกล้ชิด โดยยอมรับว่าในสภาวะที่ประเทศมีสภาพคล่องส่วนเกินสูงอาจต้องนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงบ้าง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์อาจปล่อยสินเชื่อโดยไม่มองความเสี่ยงลูกหนี้ระยะยาว ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง