'PF'ชี้ตลาดล่างฝืด ปรับแคมปัสเปิดไอคอนโด

'PF'ชี้ตลาดล่างฝืด ปรับแคมปัสเปิดไอคอนโด

"พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค" ชี้กำลังซื้ออสังหาฯ ตลาดล่างแผ่ว ปรับแผนเจาะเพิ่มตลาดกลางบน พร้อมเปิดไอคอนโด เจาะกลุ่มนักศึกษา

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า กำลังซื้อตลาดล่างไม่ค่อยดี แม้ความต้องการซื้อยังมี แต่กำลังซื้อติดปัญหาหนี้ครัวเรือน ทำให้ถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง (รีเจค) โดยลูกค้าตลาดล่างมียอดปฏิเสธสินเชื่อสูง20-25% สำหรับเพอร์เฟค มีสัดส่วนสินค้าตลาดล่าง30%ที่เหลือเป็นตลาดกลาง40%และตลาดบน30%

โดยในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดตัว 14 โครงการ มูลค่ารวม 2.06 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.55 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5.1 พันล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียมที่จะเปิดในช่วงครึ่งปีหลังเป็นแบรนด์ไอคอนโด 2 โครงการ บน 2 ทำเล ได้แก่ ย่านไทรม้า และรามคำแหง-เสรีไท แบรนด์คอนโดเมโทร ลักซ์ และแบรนด์เมโทร สกาย

“เรายังมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้ยังเป็นไปได้ตามเป้าแม้ว่าในครึ่งปีแรกเราจะมีการเปิดขายโครงการใหม่เพียงโครงการเดียว คือ โครงการไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะแคมปัส มูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท เรามองว่าในครึ่งปีหลังการเปิดโครงการมากขึ้นจะช่วยเป็นแรงผลักดันยอดขายของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แต่โครงการที่เราเปิดในปีนี้สัดส่วนจะกระจายไประดับบนเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากเดิม 20% เพราะกำลังซื้อระดับบนยังดีอยู่ และเรามาลดสัดส่วนโครงการระดับล่างเหลือ 30% จากเดิม 40% เพราะโครงการระดับล่างราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อยูนิต ยังมีปัญหาในการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งมีอัตราการปฏิเสธอยู่ที่ 20-25%”นายวงศกรณ์ กล่าว

ล่าสุดเปิดตัวโครงการ“ไอคอนโด ศาลายา 2 เดอะ แคมปัส”เป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไลซ์สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มูลค่า1.4 พันล้านบาท ขนาดพื้นที่โครงการ 9ไร่เศษ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา 1 กม. ประกอบด้วยห้องพัก จำนวน 880 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 30-36 ตร.ม. ในระดับราคา 1.65-1.80 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสำหรับขาย ซึ่งปรับมาจาก แผนพัฒนาหอพักนักศึกษายูนิลอฟท์ เพื่อการรับรู้รายได้เร็วขึ้น ในลักษณะโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย ตั้งเป้าปิดการขายทั้ง 4 อาคาร ภายในปี 2560 ปัจจุบันบริษัทได้เปิดขายอาคารแรกแล้วจำนวน 220 ยูนิต ในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายแล้ว 70%

นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวได้ร่วมมือกับ2พันธมิตรธุรกิจ ได้แก่“Too Fast to Sleep”ร้านกาแฟ24ชั่วโมง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักศึกษาและคนเมือง มาเปิดคาเฟ่แห่งใหม่ที่ด้านหน้าโครงการ พร้อมร่วมมือกับ“เอไอเอส”จัดแพคเกจพิเศษกล่องเพล์บ๊อกซ์ให้ลูกบ้านในโครงการใช้ฟรี1ปี

ส่วนทางด้านรายได้นั้น บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 3.51 พันล้านบาท โดยบริษัทจะมีการโอนโครงการเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบการเปิดโครงการแนวราบในครึ่งปีหลัง ทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้ภายในปีนี้ส่วนหนึ่ง อีกทั้งบริษัทยังมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog)โดย ณ สิ้นไตรมาส 1ปี 2559 อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นแบคล็อกของโครงการแนวราบ 900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไนปีนี้ทั้งหมด และโครงการคอนโดมิเนียม 4.5 พันล้านบาท จะทยอยรับรู้ปีนี้ 2.7 พันล้านบาท

สำหรับโครงการหอพักนักศึกษา “ยูนิลอฟท์ เชียงใหม่” มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาขายโครงการให้กับผู้สนใจซื้อ คาดว่าจะมีข้อสรุปได้ภายในปีนี้