TRUE - ขาย

TRUE - ขาย

เป้าส่วนแบ่งรายได้บริการที่ท้าทายของทรูโมบายจะส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น

ประเด็นการลงทุน

เราคาดว่าการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นนับจากนี้เป็นต้นไป ภายใต้สถานการณ์ที่ทรูโมบายยังคงตั้งเป้าที่จะขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยอันดับที่ 2 แทน DTAC ให้ได้ภายในปี 2561 (หรือบรรลุเป้าส่วนแบ่งรายได้บริการที่ 33% ภายในปี 2561) ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับคู่แข่งอย่างเช่น ADVANC และ DTAC ที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้เท่าเดิม และนั่นหมายถึง ADVANC หรือ DTAC หรือทั้งสองบริษัทอาจจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปให้กับทรูโมบายในระยะยาว ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นการยากสำหรับทรูโมบายที่จะกลับไปแสดงกำไรอีกครั้งในปี 2561 หรือหลังจากนั้น แต่เราประเมินว่ามีโอกาสหรือความเป็นไปได้เช่นกันในระยะยาว พิสูจน์ได้จากส่วนแบ่งรายได้บริการของทรูโมบายที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอดในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าภาพระยะยาวของ TRUE อาจมีแนวโน้มกลับมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหรือเป็นบวกมากขึ้น (ถ้าทรูโมบายสามารถโค่น DTAC หรือขึ้นมาท้าทาย ADVANC ได้ภายในปี 2561) แต่ผลขาดทุนสุทธิของ TRUE จำนวนมาก การก่อภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น และการไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในช่วงปี 2559-61 จะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับหุ้น TRUE

ยังคงเป้าส่วนแบ่งรายได้บริการที่ 33% ในปี 2561

ทรูโมบายสามารถที่จะเพิ่มส่วนแบ่งรายได้บริการไปอยู่ที่ 22% ในไตรมาส 1/59 (จากเฉลี่ย 19% ในปี 2558) เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าทั้งระบบเติมเงินและระบบรายเดือน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการใช้งานบริการดาต้าอย่างมีนัยสำคัญ (โดยรายได้บริการนอนว้อยซ์ของทรูโมบายในไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 47% YoY และ 11% QoQ) ซึ่งถือว่าอัตราการเติบโตสูงกว่าคู่แข่งอย่างเช่น ADVANC และ DTAC อย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าทรูโมบายยังคงไม่เปิดให้บริการคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ซในไตรมาส 1/59 ก็ตาม ผู้บริหารตั้งเป้าส่วนแบ่งรายได้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 33% ในปี 2561 ซึ่งจะส่งผลให้ทรูโมบายกลายเป็นผู้ให้บริการอันดับสองของประเทศไทยแทนที่ DTAC และเนื่องจากการลดลงของฐานลูกค้าของ DTAC อย่างต่อเนื่องและมุมมองในแง่ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการและความเป็นผู้นำด้าน 3 จีของลูกค้าที่มีต่อ ADVANC ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าการเพิ่มส่วนแบ่งรายได้บริการอีก 1% ต่อไตรมาสสำหรับในอีก 11 ไตรมาสข้างหน้าไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับทรูโมบายแต่อย่างใด ดังนั้นจึงเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับ ADVANC และ DTAC ที่จะต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ให้ได้เท่าเดิมในอีกสามปีข้างหน้า เรามองว่าการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป จากการที่ทรูจะเปิดให้บริการคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ซเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ


ความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภคที่มีต่อทรูโมบายเพิ่มขึ้นในทุกอันดับ

ผู้บริหารอ้างอิงจากรายงานวิจัยการจัดอันดับความพึงพอใจต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ประกอบการทั้งสามราย (top-of-mind) โดยความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้บริการที่มีต่อ TRUE เพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ของการให้บริการโดยเฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑล ในขณะที่ความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้บริการที่มีต่อ ADVANC ลดลงในทุกพื้นที่ของการให้บริการ และของ DTAC ค่อนข้างทรงตัว ในส่วนของความพึงพอใจสูงสุดของผู้ใช้บริการสำหรับทั้งประเทศ TRUE เพิ่มขึ้นจาก 26% ในเดือนมี.ค.2558 ไปอยู่ที่ 35% ในเดือนมี.ค.2559 ในขณะที่ของ ADVANC ลดลงจาก 43% เหลือ 36% และของ DTAC ลดลงจาก 30% เหลือ 28% (ถ้าเปรียบเทียบในช่วงเดือนมี.ค.2559 กับเดือนมี.ค.2558) ในส่วนพื้นที่กทม.และปริมณฑล ของทรูเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจาก 31% ไปเป็น 42% ของ ADVANC ลดลงจาก 43% เหลือ 31% และของ DTAC เพิ่มขึ้นจาก 25% มาอยู่ที่ 27% (ถ้าเปรียบเทียบในช่วงเดือนมี.ค.2559 กับเดือนมี.ค.2558) ผู้บริหารให้เหตุผลว่ามุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพเครื่อข่ายเปลี่ยนกลับมาที่ TRUE ตั้งแต่ที่ TRUE ชนะใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ซในเดือนธ.ค. 2558 เราคิดว่าประเด็นเรื่องความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภคที่ลดลงเป็นความท้าทายอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ ADVANC

ตั้งเป้า EBITDA margin เทียบเท่า DTAC ในปี 2561

ทันทีที่ทรูโมบายสามารถบรรลุเป้าส่วนแบ่งรายได้บริการที่ 33% ได้ภายในปี 2561 ผู้บริหารคาดที่จะเห็นผลกระทบจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปสู่ EBITDA และบรรทัดสุดท้ายโดยตรงในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานมีแนวโน้มที่จะคงที่มากขึ้น บริษัทคาดรายได้ทรูโมบายมีแนวโน้มที่จะกลบ EBITDA และตั้งเป้า EBITDA margin เท่ากับ DTAC ภายในปี 2561 ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นการยากที่จะเชื่อว่าทรูโมบายจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ แต่ส่วนแบ่งรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในหลายไตรมาสที่ผ่านมาก็น่าจะถือว่าเป็นโอกาสสำหรับทรูโมบายที่จะลุ้นเป้าหมายดังกล่าวในปี 2561 หรือหลังจากนั้น เราประเมินว่าเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับ DTAC ที่จะต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ให้ได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า