ผอ.สบทช.6 เตรียมรับมือความเสียหายจากปะการังฟอกขาว

นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) จ.ภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินตามคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 2 ฉบับ ได้แก่คำสั่งที่ 442/2559 เรื่องมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บริเวณพื้นที่เกาะไข่นอก เกาะไข่นุ้ย และเกาะไข่ในอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา และคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 445/2559 เรื่องมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง บริเวณ 7 พื้นที่ ได้แก่ (1)เกาะมันใน จังหวัดระยอง (2)เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (3)เกาะเหลื่อม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์(4)เกาะไข่ จังหวัดชุมพร (5)เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต (6)แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ต และ (7)เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต ว่า ในการดำเนินการนั้นแบ่งเป็นสองส่วน คือ การเข้มงวดกวดขันจับกุมกรณีกระทำความผิด กับการชี้แจงทำความเข้าใจผู้เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่อาจเสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบดูแล ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่6รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามมาตรการด้วย

ทั้งนี้ กรณีของเกาะไข่นอก เกาะไข่นุ้ย และเกาะไข่ใน อ.เกาะยาว จ.พังงา นั้น ได้มีการประการประชุมชี้แจงมาตรการตามประกาศของกรมฯ และขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ศึกษาและปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด รวมทั้งช่วยเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องดูแลไม่ให้มีการกระทำความผิด หลังจากนี้ก็จะได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลไปประจำการที่เกาะดังกล่าวตลอดทั้งวัน เพื่อออกตรวจตราและป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดตามมาตรการของกรมฯ แต่ขณะนี้ติดปัญหาคลื่นลมแรง มีความสูง 2-4 เมตร เนื่องจากอิทธิพลลมมรสุม ทำให้เรือท่องเที่ยวและเรือของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถออกไปได้จึงต้องเลื่อนไปจนกว่าคลื่นลมปกติ ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด สามารถออกเรือได้ก็จะเริ่มดำเนินตามมาตรการให้เร็วที่สุด

 ส่วนกรณีที่มีประกาศเพิ่มเติม เรื่อง มาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง บริเวณ7พื้นที่ในหลายจังหวัด ที่พบมีการฟอกขาวของปะการัง ซึ่งรวมถึง4เกาะในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เกาะราชาใหญ่ แหลมพันวา เกาะไม้ท่อน และเกาะแอล (ประกาศเพิ่มเติมล่าสุด) ก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการท่องเที่ยวของภูเก็ตมาชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือในการช่วยกันปกป้องทรัพยากรเพื่อลดความเสียหายหรือผลกระทบที่เกิดขึ้น ให้ทรัพยากรคงอยู่อย่างยั่งยืนตลอดไป