'บล.ภัทร'คาดตลาดที่อยู่อาศัยในกทม. ขยายตัว 17%

'บล.ภัทร'คาดตลาดที่อยู่อาศัยในกทม. ขยายตัว 17%

"บล.ภัทร" คาดตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ขยายตัว 17% ชี้ตลาดโรงแรมแนวโน้มดีสุด รับอานิสงค์ยอดนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

นางจิราภรณ์ ลินมณีโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 7 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พบว่า ซัพพลายใหม่ที่อยู่อาศัยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 30 มาอยู่ที่ 65,000 ยูนิต โดยเป็นคอนโดมิเนียมร้อยละ 60 ทั้งนี้ บล. ภัทร ประเมินว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะขยายตัวประมาณร้อยละ 17 หรือมีมูลค่าประมาณ 274,000 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวจะมาจากการเปิดตัวใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.59) มีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่รวม 13,500 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 45,000 ล้านบาท นอกจากนี้ การเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่จะมีมากในช่วงครึ่งหลังของปี

ด้านนายปิยศักดิ์ มานะสันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดโรงแรมมีแนวโน้มขยายตัวดีที่สุด เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขาเข้าและนักท่องเที่ยวในประเทศ การเติบโตของสายการบินราคาประหยัด และการขยายตัวของสื่อออนไลน์ในการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อตลาดโรงแรมโดยเฉพาะโรงแรมระดับกลางและประหยัดที่จับกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศและภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก สำหรับจังหวัดหลักด้านการท่องเที่ยวรวมถึงจังหวัดดาวรุ่งที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจโรงแรมมี 18 จังหวัด เช่น ภูเก็ต ชลบุรี (พัทยา) เชียงใหม่ เลย พะเยา และลำปาง เป็นต้น

ส่วนตลาดอพาร์ตเมนต์ คาดว่า เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศมีแนวโน้มเติบโตดีที่สุด โดยเฉพาะเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เกรดบีที่ได้รับความสนใจมากขึ้นตามการขยายตัวของรถไฟฟ้าที่ทำให้ย่านธุรกิจขยายตัวออกไปและส่งผลให้ตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของพนักงานบริษัท ได้รับอานิสงส์เชิงบวกด้วยเช่นกัน ขณะที่ตลาดนักเรียนนักศึกษายังสามารถเติบโตได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมองว่าทำเลที่ตั้งของอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ในละแวกสถานศึกษาในต่างจังหวัด เช่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังมีศักยภาพเติบโตได้ ขณะที่อพาร์ตเมนต์สำหรับแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังคงมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตของประเทศ จากการผลิตที่ใช้แรงงานเป็นหลักเป็นการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น และจังหวัดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจหอพักคนงาน ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และนครราชสีมา โดยเป็นจังหวัดที่จำนวนคนงานและพื้นที่โรงงานยังคงขยายตัวต่อเนื่อง