CK - ซื้อ

CK - ซื้อ

แนวโน้มกำไรน่าตื่นเต้น

ประเด็นการลงทุน

แนวโน้มกำไรของ CK ดูชัดเจนกว่าที่เคยผ่านมา โดยในระยะสั้น กำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงจากงานเพิ่มของโครงการไซยะบุรี ในขณะที่โครงการสาธารณูปโภคต่างๆที่กำลังจะเริ่มประมูลจะเป็นปัจจัยหนุนกำไรในระยะกลาง-ยาว เราเชื่อว่าแนวโน้มกำไรที่สดใสน่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้หุ้นขึ้นไปซื้อขายที่ PBV ที่ระดับสูงสุดที่ 2.7 เท่า (+2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) หรืออาจสูงกว่านั้น เรายังคงแนะนำ “ซื้อ”

แนวโน้มระยะสั้นที่น่าตื่นเต้น

งานเพิ่มของโครงการไซยะบุรีจะเป็นปัจจัยหลักหนุนกำไรในระยะสั้น โดย CK คาดจะว่าเซ็นสัญญางานเพิ่มดังกล่าวมูลค่า 1.94 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/59 โดยประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2559 เนื่องจากบริษัทได้ดำเนินงานก่อสร้างไปล่วงหน้าแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากงานเพิ่มนี้คืบหน้าไปแล้วราว 65% ดังนั้น CK น่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาททันทีหลังเซ็นสัญญา ส่งผลให้กำไรไตรมาส 2/59 มีแนวโน้มเติบโตอย่าง ก้าวกระโดด ส่วนกำไรช่วงไตรมาส 2/59-4/59 จะหนุนโดยดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง 200 ล้านบาทต่อไตรมาสจนถึงไตรมาส 4/59 เนื่องจากบริษัทคาดจะได้รับดอกเบี้ยจ่ายชดเชยจากโครงการไซยะบุรี เราจึงมองกำไร CK จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 2/59-4/59

โครงการสาธารณูปโภคจะเป็นปัจจัยหลักหนุนการเติบโตต่อเนื่อง

การเติบโตในระยะกลาง-ยาวจะมาจากโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่ง CK คาดโครงการขนาดใหญ่ที่จะเปิดประมูลในปีนี้มีมูลค่าถึง 5 แสนล้านบาท
ถึงแม้ CK อาจจะไม่ได้เข้าร่วมประมูลในหลายสัญญาของโครงการมอเตอร์เวย์มูลค่ารวม 1.49 แสนล้านบาท เนื่องจากแต่ละสัญญามีมูลค่าเพียง 1 พันล้านบาทและแข่งขันสูง แต่บริษัทน่าจะเข้าร่วมประมูลสัญญาด่านเก็บค่าผ่านทางมูลค่า 2 พัน – 1 หมื่นล้านบาทต่อโครงการ ขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละเส้นทาง (ดู figure 1) ซึ่งการประมูลทุกสัญญาน่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2559

โครงการขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่จะประมูลที่สุดที่ CK ให้ความสนใจคือโครงการส่วนต่อขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยกำหนดการยื่นซองประมูลสัญญาแรกมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาทและสัญญาที่สองมูลค่า 2.6 พันล้านบาทคือวันที่ 20 และ 21 มิ.ย. ตามลำดับ ส่วนผู้ชนะประมูลสัญญารแรกจะประกาศในวันที่ 20 ส.ค. และสัญญาที่สองในวันที่ 21 ส.ค. นอกจากนี้สัญญาที่เหลืออีก 5 สัญญามูลค่ารวม 3.2 หมื่นล้านบาทก็น่าจะตามมาในไม่ช้า

โครงการขนาดใหญ่ที่จะเปิดประมูลเป็นลำดับถัดไปคือโครงการ MRT สายสีส้มมูลค่า 8.3 หมื่นล้านบาท โดยน่าจะมีการขายซองประมูลในเดือนหน้า ยื่นซองประมูลในไตรมาส 3/59 และการประกาศผู้ชนะในไตรมาส 4/59

ยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการอยู่มาก

CK คาดโอกาสชนะการประมูลอยู่ที่ 20-25% ของงานที่เข้าประมูลทั้งหมด อย่างไรก็ตามเราให้สมมุติฐานว่า CK จะเข้าประมูลได้เพียง 1.5 แสนล้านบาทเทียบกับที่คาดการณ์ที่จะมีงานประมูลออกมา 5 แสนล้าน ด้วยอัตราการชนะการประมูลที่ 20% ดังนั้นให้บริษัทนะจะได้งานเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมงานเพิ่มของโครงการไซยะบุรี) ในช่วงที่เหลือของปี