สหรัฐกล่าวหาจีนติดอาวุธให้เกาะเทียม

กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ เสนอรายงานประจำปีต่อสภาคองเกรสส์ กล่าวหาจีนว่า กำลังวางแผนติดอาวุธให้เกาะเทียมบนพื้นที่ 8,000 ไร่ ในน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้ ที่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไนและไต้หวัน ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ และการขยายอาณาเขตอย่างรวดเร็วของจีน เท่ากับปิดกั้นโอกาสที่ประเทศอื่นๆจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด กับดินแดนที่อ้างกรรมสิทธิ์

    รายงาน ซึ่งมาจากการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวทางทหารของจีน ตลอดปี 2558 ระบุว่า รัฐบาลจีน ดำเนินนโยบายด้านการทหารที่ผสมผสานกับกลยุทธ์ทางการทูตแบบบีบบังคับเพื่อรักษาระดับความตึงเครียดกรณีพิพาทเรื่องการแย่งชิงอาณาเขตทั้งทางบกและทางทะเลในเอเชีย อันได้แก่ ทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นการวางแผนอย่างมีชั้นเชิง ด้วยการเพิ่มความขัดแย้ง แต่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามไปถึงขั้นใช้อาวุธ

จากการวิเคราะห์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ พบว่า จีน ให้เรือตรวจการณ์ หรือเรืองประมงเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการแล่นเข้าไปในเขตน่านน้ำพิพาท โดยเฉพาะบริเวณรอบหมู่เกาะสแปรตลีย์และ

หมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ และหมู่เกาะเตียวหยู หรือ เซนกากุ ในทะเลจีนตะวันออก ที่ญี่ปุ่นอ้างกรรมสิทธิ์ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งประสบความสำเร็จในทางจิตวิทยา ทำให้คู่พิพาทออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้่ การถมทะเล เพื่อสร้างเกาะเทียมในช่วงระหว่างปี 2557-2558 ยังเป็นการขยายอาณาเขต โดยเฉพาะบริเวณแนวปะการัง 7 แห่งรอบหมู่เกาะสแปรตลีย์ที่รวมถึงการสร้างรันเวย์ 3 แห่ง แต่ละแห่งยาว 3,000 เมตร ทั้งยังติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่เกาะวู้ดดี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะพาราเซล โดยคาดว่า จีนจะยังคงเพิ่มเติมสิ่งปลูกสร้างอีกหลายแห่งบนเกาะเทียมในอนาคตอันใกล้ด้วย