'แม่ประนอม'เครียด ลูกสาวไม่คืนทรัพย์สิน

'แม่ประนอม'เครียด ลูกสาวไม่คืนทรัพย์สิน

"แม่ประนอม" เครียดลูกสาวยังไม่คืนทรัพย์สิน ด้านทนายความ เผย สัปดาห์หน้าเตรียมบุกถึงบ้าน หลัง "ศิริพร" ไม่ยอมเจรจา

จากกรณีที่นางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอม ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อขอความเป็นธรรม ภายหลังเจ้าตัวถูกลูกสาวแท้ๆ ฮุบกิจการ แถมไล่ให้ออกจากบ้าน โดยอ้างว่าถูกหลอกให้เซ็นเอกสาร ส่งผลให้ตัวเองไม่มีอำนาจใด ๆ ในบริษัท จนกลายเป็นเรื่องราวฮือฮาสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนกระทั่งหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางเข้ามาพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยถึงกรณีความขัดแย้งทางธุรกิจครอบครัวระหว่างนางประนอม และบุตรสาวคนโต เพื่อคลี่คลายปัญหาดังกล่าว จนตกลงกันเป็นผลสำเร็จทั้งสองฝ่ายตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

วันนี้ (5พ.ค.) นายพิสิทธิ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนางประนอม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการคืนทรัพย์สินบางส่วนให้กับนางประนอมว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับนางศิริพร ที่วังวรดิศโดยมีหม่อมหลวงปนัดดา เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนางศิริพรหรือการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้นตามที่มีการตกลงกันไว้ ทั้งเรื่องหุ้น ที่ดิน และเงินเดือนๆละ 1 ล้านบาท ทำให้นางประนอมรู้สึกเครียด ไม่มีทางออกจึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปเมื่อวานนี้ ตนก็เข้าใจว่าจากการที่ได้ตกลงกับนางศิริพรในวันนั้นทุกอย่างจะดำเนินการไปได้ด้วยดี แต่นางศิริพรกลับเงียบหาย ตนพยายามโทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องข้อตกลงก็ถูกตัดสายทิ้ง ทำให้เรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งนางประนอมก็ไม่ได้อยากจะใช้ข้อกฎหมายกับนางศิริพรในทางคดี อยากจะให้ตกลงกันในลักษณะของแม่ลูกมากกว่า แต่ในเมื่อนางศิริพรไม่ทำตามที่ตกลงไว้ภายในสัปดาห์หน้าตนก็จะเข้าไปทวงถามความคืบหน้าที่บ้านพักของนางศิริพร พร้อมทั้งทำหนังสือร่างสัญญาข้อตกลงไปให้นางศิริพรเซ็นด้วย ส่วนจะเป็นวันไหนจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง

“ผมก็พยายามโทรศัพท์หานางศิริพรตลอด ก็ถูกตัดสาย ความคืบหน้าในข้อตกลงก็เป็นศูนย์ นางประนอมก็ถามผมตลอดว่าผมติดต่อไปยัง ผมก็ติดต่อตลอดแต่ติดต่อไม่ได้ ในช่วงที่มีปัญหากันยอดน้ำพริกเผาก็ลดลงไปมาก ทำให้นางประนอมรู้สึกเครียดเพราะว่าสร้างมากับมือ จึงต้องพยายามบอกกับสังคมให้เป็นไปในทิศทางที่ดีสำหรับแม่ลูก แต่ในที่สุดเรื่องก็เงียบหาย ข้อตกลงก็ยังไม่คืบหน้า ทำให้แกรู้สึกเครียด ประกอบกับนางศิริพรนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งไว้ที่บ้านแกก็ทำให้แกรู้สึกอึดอัดไม่มีความเป็นส่วนตัว เหมือนคอยดูความเคลื่อนไหวแกตลอดเวลา” นายพิสิทธิ์ กล่าว

นอกจากนี้นายพิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ที่ศาลตลิ่งชัน นัดไต่สวนคดีที่นางประนอมฟ้องเรียกคืนทรัพย์สินจากนางศิริพรจากกองมรดก ก่อนหน้านี้ศาลก็ให้ทั้ง 2 ฝ่ายกลับไปไกล่เกลี่ยกันเอง เพื่อให้คดีความจบ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการไกล่เกลียยังไม่เป็นผล ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมต่อไป