SPALI - ซื้อ

SPALI - ซื้อ

คาดกำไร 1Q59 เติบโตดี 60%YoY ทรงตัว QoQ

ประเด็นสำคัญในการลงทุน : 

คาดกำไร 1Q59 เติบโตดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน : ฝ่ายวิจัยคาดกำไรในช่วง 1Q59 ราว 1,445 ล้านบาทเติบโต 60%YoY ลดลง 1%QoQ จากที่คาดยอดโอนทำได้ดีที่ราว 6 พันล้านบาทเศษใกล้เคียงกับ 4Q58 แต่เติบโตราว 24%YoY สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นราว 38.5% ต่ำกว่าไตรมาสที่แล้วที่ทำได้ราว 40% เนื่องจากโครงการที่โอนมีส่วนผสมของแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียมที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า แต่บริษัทสามารถคุมค่าใช้จ่ายได้ดีทำให้คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายมีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสที่แล้ว

ปรับประมาณการกำไรปี 2559 ลดลง 6% : ปีนี้มีกำหนดโอนคอนโดมิเนียมทั้งหมด 6 โครงการมูลค่ารวม 8.4 พันล้านบาท ยอดขายรอโอน (backlog) ณ ปลายไตรมาสแรกเท่ากับ 3.7 หมื่นล้านบาท ส่วนที่จะโอนปีนี้เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดี สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นยังไม่สามารถกลับไปที่ระดับ 40% เท่ากับในอดีตได้เนื่องจากมีส่วนผสมของการโอนโครงการแนวราบกับคอนโดมิเนียมมีสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ 50:50 เทียบกับ 39:61 ในปี 2558 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของโครงการแนวราบต่ำกว่าคอนโดมิเนียม ฝ่ายวิจัยยังประมาณการรายได้ปี 2559 ที่ราว 2.2 หมื่นล้านบาทแต่ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิม 39% เหลือ 38.6% ซึ่งทำให้ประมาณการกำไรปีนี้ลดลง 6% เหลือ 4.9 พันล้านบาท เติบโต 13% จากปี 2558

ยอดขาย presale ทำได้ 22% ของเป้าทั้งปีที่ 2.45 หมื่นล้านบาท : บรรยากาศการขายดีขึ้นมากโดยเฉพาะโครงการแนวราบที่น่าจะทำให้ยอดรวมทั้งปีดีกว่าเป้าของบริษัทซึ่งส่วนหนึ่งได้รับประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่สิ้นสุดปลายเดือนเม.ย. โดยมียอดขาย presale ในช่วง Q1 ราว 5.3 พันล้านบาท คิดเป็น 22% ของเป้าทั้งปีที่ 2.45 หมื่นล้านบาท ใน Q2 มีแผนเปิดขายคอนโดมิเนียม 2 โครงการมูลค่ารวม 3.1 พันล้านบาท จากแผนทั้งหมด 27 โครงการมูลค่ารวม 3.6 หมื่นล้านบาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมเหลือ 25 บาท : บริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการในต่างประเทศเพิ่มเติมในการลงทุนถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน 25% พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 4 โครงการในออสเตรเลียซึ่งมีทั้งที่ดินเปล่าและทาวน์โฮมซึ่งมีระดับ IRR ราว 22-24% จากประมาณการกำไรใหม่ทำให้ราคาเหมาะสมซึ่งประเมินด้วยวิธี Prospect PER ที่ระดับ 9 เท่าลดเหลือ 25 บาทจากเดิม 27 บาทซึ่งยังสูงกว่าราคาปิดล่าสุด ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 7.2 เท่า ขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจราว 5.3% ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”