‘ฮอบบิตัน’ มหัศจรรย์จินตนาการ

ในโลกใบนี้จะมีสถานที่่ถ่ายทำภาพยนตร์สักกี่แห่งที่เก็บรักษาความสวยสดงดงามของสถานที่ไว้ได้เหมือนเดิม 

หนึ่งในสถานที่ที่ต้องกล่าวถึงคือ HOBBITON MOVIE SET เมืองมาทามาทา บนเทือกเขาไคไมเรนจ์ ในประเทศนิวซีแลนด์ 

เมื่อเดินเข้าไปในหมู่บ้าน รู้สึกทันทีว่า เป็นบ้านของฮอบบิทที่มีชีวิตชีวา ต่างจากหลายสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่เคยเห็น มันช่างเหมือนเทพนิยาย แต่เป็นเทพนิยายที่มีอยู่จริง ไม่ใช่แค่ร่องรอยของสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์

การไปเยืือนครั้งนี้ เนื่องจากทางผู้บริหารบริษัทเอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค พาผู้โชคดีที่ได้รางวัลจากการชิงโชคตั๋วชมภาพยนตร์ในเครือเอฟเอส จำนวน 10 คนไปนิวซีแลนด์ เกาะเหนือ เพื่อตามรอยภาพยนตร์ The Lord of the Rings เและฮอบบิท ในประเทศเล็กๆ ที่มีพื้นที่ประมาณ 268,105 ตารางกิโลเมตร ประชากรแค่ 4 ล้านกว่าๆ ประกอบด้วยคนหลายชาติหลายภาษา

นิวซีแลนด์จึงมีความโดดเด่นเรื่องธรรมชาติ เหมาะแก่การถ่ายทำภาพยนตร์มหากาพย์ที่มาจากเทพนิยาย โดยประเทศนี้มีเกาะขนาดใหญ่ 2 เกาะ รวมถึงเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้ จนถูกเรียกว่าดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว

ว่ากันว่า ผู้คนในนิวซีแลนด์ดูเป็นมิตร ไม่เหยียดผิว 

ที่นี่จึงเป็นอีกประเทศที่คนไทยนิยมส่งบุตรหลานมาเรียนหนังสือ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูงอีกแห่งของโลก เนื่องจากผู้คนมีชีวิตที่เรียบง่าย สภาพภูมิประเทศอุดมสมบูรณ์ ประชาชนอยู่ดี กินดี

ก่อนจะมาถึง “มาทามาทา” เมืองเล็กๆ บนเกาะเหนือ ใกล้ๆ เทือกเขาไคไม (Kaimai Ranges) ในเขตไวกาโต้ (Waikato) มีบางคนบอกก่อนออกเดินทางว่า แค่ไปถึงโอ๊คแลนด์ ก็จะรู้สึกชอบที่นั่น เพราะพื้นที่สีเขียวเยอะมาก และไม่ได้ผิดไปจากคำบอกเล่า

นิวซีแลนด์มีแหล่งน้ำครอบคลุมทั่วประเทศ แหล่งน้ำเหล่านั้นมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยเกาะเหนือมีพื้นที่ที่เป็นภูเขาน้อยกว่าเกาะใต้ เนื่องจากพื้นที่บนเกาะนิวซีแลนด์จะเต็มไปด้วยภูเขาสูง รวมถึงภูเขาไฟที่ยังร้อนระอุ

ตลอดเส้นทางไปสู่เมืองมาทามาทา เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ทุ่งหญ้า เนินเขา ฟาร์มแกะ และวัว ชีวิตดูเรียบง่าย

และเมื่อพูดถึงภาพยนตร์มหากาพย์ฮอบบิท ก็ต้องพูดถึงปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นชาวนิวซีแลนด์ ตอนนั้นเขาเลือก Alexander Farm เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์The Hobbit ภาคแรก และเขาก็รับบทเล็กๆ ในภาพยนตร์  เป็นคนแคระที่ถือแครอทเคี้ยวเล่น ตอนที่มังกรสม็อกบินมาจู่โจม

หากใครได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรก ก็จะหลงรักฮอบบิท

ฉากแรกในหนังเรื่องนี้ บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ในวัยชรา เล่าถึงการผจญภัยในวัยหนุ่ม เขาออกมานั่งที่เก้าอี้หน้าบ้าน พ่นยาสูบ เล่าถึงการตัดสินใจออกจากหมู่บ้านฮอบบิท โดยสิ่งที่อยู่เบื้่องหน้าคือ ทิวทัศน์อันงดงามของหมู่บ้าน

ไม่กี่ชั่วโมงที่เดินอยู่ในฮอบบิตัน สิิ่งที่เห็นไม่ได้ผิดเพี๊ยนไปจากภาพยนตร์เลย โพรงดิน บ้านของฮอบบิท ทุ่งหญ้า ต้นโอ๊ค ฟักทองลูกโตๆ ต้นผักที่กำลังงอก ดอกไม้หลากสี รวมถึงเสื้อผ้าตัวเล็กๆ ของเหล่าฮอบบิท ยังคงมีชีวิตชีวาเหมือนที่เห็นในภาพยนตร์

ในฮอบบิตัน ทำให้หลายคนได้เห็นความเป็นอยู่ของฮอบบิทที่มีความสูงแค่ 3 ฟุต 6 นิ้ว มีปลายหูแหลมๆ อาศัยอยู่ในโพรง พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่รักสงบ อายุยืนกว่ามนุษย์ธรรมดาชอบกินเห็ด ช็อคโกแลต และเหล้าเอล รวมถึงชอบสูบยา เนื่องจากดินแดนของพวกเขาเป็นแหล่งผลิตยาสูบมวนกระดาษสีดำชั้นเลิศ ซึ่งเห็นได้ในฉากแรก บิลโบ นั่งพ่นควันจากกล้องยาสูบอย่างมีความสุข ส่วนตัวละครอีกตัวที่ต้องพูดถึงคือ พ่อมดแกนดาล์ฟ ผู้ชักนำให้บิลโบออกผจญภัยกับเหล่าคนแคระ ซึ่งตัวละครตัวนี้ ก็มีความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นกับบิลโบ และรักการสูบยาเหมือนกัน 

ระหว่างการเที่ียวชมฮอบบิตัน ไกด์จะเล่าเรื่อง และฉันก็เหลือบไปเห็นเสื้อตัวจิ๋ว กางเกงหลากสีที่บางตัวเปื้อนโคลนของฮอบบิทตากอยู่กลางแจ้ง ปลาแห้งยังตากแดดอยู่ริมรั้ว พลอยทำให้ถึงบรรยากาศในหนังฮอบบิท โดยเฉพาะบ้านของบิลโบ จะมีต้นไม้อยู่บนประตู เป็นโลเคชั่นที่ดีที่สุด เป็นบ้านหลังเดียวที่มีพื้นที่ใช้สอยด้านใน ซึ่งต่างจากบ้านฮอบบิทหลังอื่นๆ

ว่ากันว่า ฝ่ายศิลป์ที่สร้างบ้านฮอบบิท จะใช้ไม้พื้นเมืองขนาดใหญ่ประกอบบ้าน โดยใช้น้ำส้มสายชูทำให้เนื้อเป็นสีเทาดำเข้ม นอกจากนี้ยังผสมตะไคร่น้ำ สีและกาวบนคานเพื่อให้ทุกอย่างดูเก่า

ความโดดเด่นอีกอย่างของหมู่บ้านฮอบบิท คงจะเป็นต้นไม้ด้านบนบ้านบิลโบ ถ้ามองไกลๆ ก็จะคิดว่าเป็นต้นไม้จริง แต่ทราบภายหลังว่า เป็นต้นโอ๊คเทียมที่ทำจากเหล็กและซิลิคอน โดยนำเข้าใบไม้พลาสติกจากไต้หวันกว่าสองแสนใบติดบนต้นโอ๊ค และมีการทำให้เปลือกไม้คล้ายของจริง

ในหมู่บ้านฮอบบิท นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างรื่นรมย์ เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่งดงาม รอบๆ บ้านของฮอบบิทแต่ละหลัง ก็มีลูกเล่นที่แตกต่าง สิ่งของเครื่องใช้เล็กๆ ตามแบบฮอบบิท ชนเผ่าที่รักสงบ ก็น่าเอ็นดู

นอกจากนี้ในหมู่บ้าน ยังมีสะพานโค้ง แม่น้ำสายเล็กๆ โรงสี และกรีน ดราก้อน อินน์ ซึ่งเป็นเสมือนโรงเตี้ยม ไว้ต้อนรับผู้มาเยือน หลังจากเยี่ยมชมหมู่บ้านแล้ว ก็จะมีการเสริฟจินเจอร์ เบียร์ ปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนเดินเล่น นั่งเล่น ริมน้ำ ซึ่งมีความงดงาม จนยากจะเปรียบเปรย

เพราะรัฐบาลนิวซีแลนด์เล็งการณ์ไกล เปิดทางให้สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เดอะลอร์ด ออฟ เดอะริงส์ และฮอบบิท กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองบนเนื้อที่กว่า 1250 เอเคอร์ ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว Alexander เจ้าของฟาร์ม โดยแปลงร่างสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวในภาพยนตร์กลายเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรเพื่อการท่องเที่ยว ที่เรียกว่า ฮอบบิตัน

และนี่เองที่ทำให้ฮอบบิท ยังอยู่ในใจของคนทั้งโลก