อุทธรณ์ยกฟ้อง'ธาริต' ไม่ผิดแถลงข่าวปี56 คดีหมิ่น'สุเทพ'

อุทธรณ์ยกฟ้อง'ธาริต' ไม่ผิดแถลงข่าวปี56 คดีหมิ่น'สุเทพ'

ศาลอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง "ธาริต" อดีตอธิบดีดีเอสไอ ไม่ผิดแถลงข่าวปี56 คดีหมิ่น "สุเทพเทือก" ปมสร้างโรงพักทดแทน ด้านทนายสุเทพหาช่องฎีกาคดี

เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.495/2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตเลขาธิการ กปปส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ,328

ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 7 ก.พ.56 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 21 ม.ค.- 4 ก.พ. 56 นายธาริต ขณะนั้นอธิบดีดีเอสไอ ได้แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชน กล่าวหาว่า นายสุเทพ โจทก์ ขณะดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง

โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาวันที่ 26 มี.ค.58 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า การแถลงข่าวของจำเลย เป็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงพัก และให้ความเห็นในทางกฎหมายในฐานะอธิบดี ดีเอสไอ ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้กระทำการทุจริต การแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ของจำเลยเป็นการสรุปความคืบหน้าของคดีตามพยานหลักฐานในฐานะเป็นเจ้าพนักงานที่ได้ปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ และเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (2) จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ต่อมา นายสุเทพ โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษจำเลยด้วย

ขณะที่วันนี้ นายธาริต ที่เพิ่งลาสิขา ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม

ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเพียงพอได้ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ภายหลังนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ โจทก์ กล่าวว่า ศาลได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยให้เหตุผลว่าการให้สัมภาษณ์ของจำเลยเป็นการสรุปความคืบหน้าโครงการในฐานะเจ้าพนักงานที่ได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ หลังจากนี้จะปรึกษากับนายสุเทพว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร ซึ่งช่องทางฎีกาก็ยังมีอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายธาริต ได้เดินทางกลับทันที หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนยกฟ้อง

อย่างไรก็ดีสำหรับนายสุเทพ และนายธาริต ยังมีคดีที่ฟ้องร้องกันอยู่อีก 2 คดี คือ 1.คดีที่นายสุเทพ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต กับพวกรวม 5 คนต่อศาลอาญา คดีหมายเลขดำ อ1640/2556 ฐานหมิ่นประมาทฯ กรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ถถึง 5 มี.ค.56 แถลงข่าวกล่าวหาโจทก์ ทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงโครงการก่อสรางสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง จากรายภาค รวมเป็นรายเดียว ซึ่งคดีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับคดีไว้พิจารณา โดยนัดตรวจหลักฐานวันที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

และคดีที่นายสุเทพ ยื่นฟ้องนายธาริต ต่อศาลอาญา คดีหมายเลขดำ 9/2557 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมิ่นประมาทฯ กรณีวันที่ 17-31 ธ.ค.56 จำเลยให้คณะกรรมการคดีพิเศษรับคดีที่นายสุเทพ ถูกกล่าวหาว่าทำทำผิดอาญาจากการชุมนุมทางการเมือง โดยมิชอบ โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 20 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.