หนุ่มหนองคายซิ่งกระบะเสยตอม่อรถไฟฟ้าฯบางหว้าดับ

หนุ่มหนองคายซิ่งกระบะเสยตอม่อรถไฟฟ้าฯบางหว้าดับ

หนุ่มหนองคายวัย26 ซิ่งกระบะเสยตอม่อรถไฟฟ้าฯบางหว้าดับ

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 3 พ.ค. ร.ต.อ.เดชอุดม อ่อนยิ่ง รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งมีรถกระบะชนจยย.มีผู้เสียชีวิต บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า ถนนราชพฤกษ์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม.รุดไปตรวจสอบ พร้อม แพทย์ภาควิชานิติเวชรพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุ บริเวณเกาะกลางถนนราชพฤกษ์ ฝั่งมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ใต้สถานีรถไฟฟ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น ดีแมกซ์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บม 4855 อุดรธานี ลักษณะแต่งซิ่งชนเกาะกลางจน พลิกคว่ำล้อชี้ฟ้าอยู่บนถนน สภาพด้านหน้าและด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง พังยับเยินน้ำมันเจิ่งนอง ล้อหลังด้านซ้ายหลุดสภาพแทบจำไม่ได้
ตรวจสอบภายในรถ พบผู้เสียชีวิต เป็น ชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายอานนท์ พันธะมน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 5 ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน สภาพคอพับ กระเด็นมาอยู่ด้านฝั่งคนนั่งด้านซ้ายถูกประตูกดทับเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างยกซากรถเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาอย่างทุลักทุเล

ร.ต.อ.เดชอุดม กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า ที่บริเวณตอม่อใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วงฝั่งถนนขาออก ห่างจากจุดที่รถกระบะพลิกคว่ำประมาณ 100 เมตร พบร่องรอยถูกรถกระบะเฉี่ยวชน และบนพื้นถนนยังมีรอยเบรก ลักษณะลากยาวมาจนถึงเกาะกลางถนนที่เป็นจุดที่พบรถกระบะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีภายในรถ ใกล้กัน ยังพบจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน ฬธค 936 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย เป็นผู้ขับขี่ซ้อนท้ายกันมา ทราบชื่อ 1.นายเฉลิมศักดิ์ บุญยัง อายุ 23 ปี น.ส.ไพจิตร เลื่อนทัพ อายุ 23 ปี นำตัวส่งรักษาที่รพ.เพชรเกษม 2

ร.ต.อ.เดชอุดม กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้น คาดว่า รถกระบะน่าจะขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียหลักชนกับตอม่อใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แล้วกระเด็นไปชนกับจยย. ก่อนจะชนกับเกาะกลางทำให้พลิกคว่ำ แต่หลังจากนี้ จะเดินทางไปสอบปากคำพยานแวดล้อม หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปทรัพย์สิน ที่เสียหาย ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป