ตลท.ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปเพิ่มเท่าตัวภายใน 4-5 ปี

ตลท.ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปเพิ่มเท่าตัวภายใน 4-5 ปี

"ตลท." ตั้งเป้ามาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายใน 4-5 ปี พร้อมดึงบริษัทต่างชาติเข้าจดทะเบียน ปลื้มขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในอาเซียนหลายด้าน

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ในโอกาสที่ตลาดหลักทรัพย์ก้าวสู่การ ดำเนินงานปีที่ 42 ว่า ตลท.คาดหวังมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายใน 4-5 ปีข้างหน้า หลังมีแผนจะเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มผู้ลงทุน และสนับสนุนให้บริษัทต่างๆที่จดทะเบียนในตลท.และที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท. ให้สามารถระดมทุนได้ ซึ่งจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในระยะยาว ตลอดจนมีแผนดึงผู้ประกอบการต่าง ประเทศเข้ามาจดทะเบียนในประเทศไทยในอนาคตให้ ได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลท.นับว่าเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนหลายด้าน ได้แก่ มูลค่าของการ ระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เป็นอันดับ 1 ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และคาดว่าปีนี้จะได้รับอันดับที 1 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ,ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ที่ปัจจุบันอยู่ ระดับ 4.5 หมื่นล้านบาทนั้นก็นับว่ามากสุดในอาเซียน เป็นต้น

ส่วนที่ตลท.ยังเป็นรองตลาดหุ้นอื่นในอาเซียน คือ มาร์เก็ตแคป ซึ่งถูกจัดอยู่อันดับ 2 หรือ 3 โดยมีสิงคโปร์มีมาร์เก็ตแคปสูงเป็นอันดับ 1 แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลให้ลึกลงไปจะพบว่าเป็นผลจากการ ที่มีบริษัทต่างประเทศ เข้ามาจดทะเบียนมากพอสมควร เพราะหากนับเฉพาะบริษัทภายในสิงคโปร์ เองนั้นนับว่ามีจำนวนปริมาณน้อยกว่าไทย มาก

ดังนั้น จึงต้องพิจารณาถึงความหลากหลาย ความหนาแน่นมีเพียงพอที่จะดึงดูดการเข้ามาจดทะเบียน ของบริษัทต่างประเทศหรือ ไม่ ที่ผ่านมากฎเกณฑ์มีการเปิดกว้างพอสมควรตั้งแต่การรับเอกสารเป็น ภาษาอังกฤษ บ้างแล้ว แต่บริษัทต่างประเทศเหล่านั้นยังกังวลเรื่องการซื้อขายที่ยังเป็นเงินสกุล บาท ซึ่งบางครั้งต้องเปลี่ยนเป็นสกุลดอลลาร์ หรือเปลี่ยนเป็นสกุลเงินของบริษัทนั้นๆเอง ทำให้ยังคงเป็น อุปสรรคในการที่จะเข้ามาจดทะเบียนในไทย

"ในอนาคตตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็คงอยากทำให้ธุรกิจของตัวตลาดหลักทรัพย์ฯให้ ใหญ่มากขึ้นในเรื่อง มาร์เก็ตแคป เราอาจจะเรียกว่าเป็นธุรกิจของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จริงๆแล้วต้องเรียนว่าบริษัทจด ทะเบียนเหล่านั้น เป็นธรุกิจของประเทศไทย ที่จะทำอย่างไรให้ธุรกิจของประเทศไทยจะสามารถ ระดมทุนได้มืออาชีพได้ เรายังคาดหวังว่าอย่างน้อยน่าจะเห็นเกือบๆ double size ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า ของตัวมาร์เก็ตแคปของเรา เรื่องของตลาดหลักทรัพย์ ยิ่งคล่องยิ่งดึงดูดใจ ยิ่งมากยิ่งดี เราจึงบอกว่า อันแรกเราต้องทำสภาพ คล่องด้วย เราจึงต้องมีปริมาณของบริษัทจดทะเบียนที่มี potential growth มากขึ้นๆ เพราะไม่ เช่นนั้นจะ serve คนไม่ได้"นางเกศรา กล่าว

นางเกศรา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแปรรูปตลท.นั้น ปัจจุบันตลท.มีสถานะเป็นนิติบุคคลทางกฎหมาย ซึ่งการจะปรับปรุงเปลี่ยน แปลงโครงสร้างใดๆ ก็ต้องเป็นอำนาจของหน่วยงานราชการที่เป็นผู้ออกกฎหมาย