ธุรกิจปิโตรฯปลดคนงาน 10% รับน้ำมันร่วง

ธุรกิจปิโตรฯปลดคนงาน 10% รับน้ำมันร่วง

"อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ" เผย ธุรกิจปิโตรเลียมปลดคนงาน 10% เริ่มกลางปีนี้ หลังน้ำมันขาลงฉุดการทำธุรกิจ คาดรายได้เข้ารัฐหาย 5 หมื่นลบ.

นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมขอชะลอการสำรวจและขุดปิโตรเลียมหลุมใหม่ๆ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่องทำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ที่จะเกิดขึ้น แต่ยังคงรักษาระดับการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติให้อยู่ในอัตราปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อปริมาณการใช้ในประเทศ โดยราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ลดต่ำลงเฉลี่ย 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากที่เคยอยู่ระดับ 100 ดออลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ได้ส่งผลกระทบให้ธุรกิจการสำรวจปิโตรเลียมส่วนใหญ่ขณะนี้หยุดการขุดเจาะปิโตรเลียมออกไปก่อนชั่วคราว เนื่องจากผลิตไม่คุ้มทุน ขณะเดียวกันหลายบริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อปรับลดค่าใช้จ่าย ส่วนหนึ่งลดพนักงานที่ไม่จำเป็นเฉลี่ย 10% เริ่มเห็นผลตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป

"การหยุดสำรวจแหล่งปิโตรเลียมใหม่ทำให้การขุดเจาะหลุมเพื่อผลิตน้ำมันแห่งใหม่ลดตามไปด้วยระดับการผลิตจึงเริ่มชะลอตัวโดยปีที่ผ่านมามีการผลิตน้ำมันระดับ 150,000 บาร์เรลต่อวันและปีนี้ก็ยังอยู่ระดับดังกล่าว เนื่องจากมีการผลิตเพิ่มจากแหล่งใหม่ คือ แหล่งนงเยาว์ มโนราห์ และวาสนาเพิ่มอีก 20,000 บาร์เรลต่อวันจึงทำให้การผลิตน้ำมันขณะนี้อยู่ที่ 170,000 บาร์เรลต่อวัน หากราคาน้ำมันยังคงทรงตัวระดับต่ำเชื่อว่าการผลิตจะไต่ระดับลดลง"

ส่วนผลการจัดเก็บรายได้ปิโตรเลียม มีแนวโน้มจะลดลงตามราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยปี 57 รายได้รัฐที่ประกอบด้วยค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ และ รายได้จากแหล่งพื้นที่พัฒนาร่วมไทยมาเลเซีย (เจดีเอ) รวมอยู่ที่ 190,018 ล้านบาท ส่วนปี 58 รายได้รัฐอยู่ที่ 152,691 ล้านบาท ขณะที่ปี 59 รายได้รัฐล่าสุด 3 เดือนแรก (1ม.ค.-31มี.ค.)อยู่ที่15,974 ล้านบาท คาดว่าตลอดทั้งปี รายได้รัฐภาพรวมจะลดลงไป 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับปี 58 หรือลดลงกว่า 50,000 ล้านบาท หากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกเฉลี่ยยังทรงตัวในระดับปัจจุบัน