'วัฒนา เมืองสุข' ลั่น! 'ผมจะไปตามนัด'

'วัฒนา เมืองสุข' ลั่น! 'ผมจะไปตามนัด'

"วัฒนา เมืองสุข" โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศ 18 เม.ย. "ผมจะไปตามนัด" ยืนยันไม่ได้ท้าทายอำนาจคสช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Watana Muangsook ระบุหัวข้อว่า "ผมจะไปตามนัด" มีเนื้อหาระบุว่า

ผมได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คยืนยันว่า คสช. ไม่มีอำนาจควบคุมตัวผม เพราะการแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ต่อมาทีมโฆษก คสช. ได้เปลี่ยนข้อกล่าวหาใหม่ว่าผมผิดข้อตกลงที่เคยลงนามไว้ ซึ่งผมก็ได้ส่งข้อตกลงมาให้ดูเป็นหลักฐานแล้วว่าไม่เป็นความจริง บัดนี้ ทีมโฆษก คสช. เปลี่ยนข้อกล่าวใหม่อีกว่า ผมผิดข้อตกลงที่มาพบเจ้าหน้าที่กว่า 4 ครั้งและได้ลงนามทำข้อตกลงแบบลูกผู้ชายไว้

ผมจำเป็นต้องตอบ คสช. เพื่อพิสูจน์ความจริงว่า ผมเป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชน แม้จะไม่มีกำลังและอาวุธ แต่มีเกียรติและศักดิ์ศรีที่จะไม่กล่าวคำเท็จเพื่อประโยชน์ทางการเมือง เมื่อ คสช. ยึดอำนาจการปกครอง ผมถูกควบคุมตัว 3 วัน ผมได้ลงนามทำข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่เพียงครั้งเดียว ตามเอกสารที่โพสต์มาให้ดูแล้ว จากนั้นผมถูกนำตัวไปปรับทัศนคติเพราะการแสดงความเห็นอีก 3 ครั้ง ทุกครั้งก่อนปล่อยตัว ผมไม่เคยลงนามว่าจะไม่แสดงความคิดเห็น ท่านกล่าวหาผมในนาม คสช. จึงต้องมีหลักฐานไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ ผมเตือนความจำให้ว่า ครั้งแรกผมถูกเรียกไปที่กองทัพภาค 1 ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 ถูกควบคุมตัวที่ มทบ. 11 กรุณาเรียกหลักฐานข้อตกลงที่อ้างจากหน่วยที่ควบคุมตัวผมมายืนยัน เพื่อแสดงความเป็นสุภาพบุรุษและความเป็นทหารของผู้กล่าวหา

ผมจะไปพบ คสช. ในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ตามนัด แต่ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายและไม่เคยทำผิดข้อตกลง คสช. จึงไม่มีอำนาจมาควบคุมตัวผม อีกทั้งผมไม่ยินดีและไม่รับเชิญที่จะไปพูดคุยใดๆ กับ คสช. หากผมต้องไปก็ด้วยถูกกำลังบังคับอันเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจที่ผมไม่อาจขัดขืนได้ ผมยืนยันว่าการจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นขัดกับมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ คสช.เป็นผู้ขอพระราชทานมาใช้บังคับเองและยังขัดกับข้อ 19 แห่ง "ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน" (The Universal Declaration of Human Rights) ของสหประชาชาติที่ประเทศไทยรับรอง (endorsement) พร้อมกับอีก 48 ประเทศมาตั้งแต่ พ.ศ. 2491 จึงเป็นพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม นอกจากนี้การนำตัวผมไปควบคุมโดยมีข้ออ้างเป็นการปรับทัศนคติ ยังขัดกับข้อ 5 และข้อ 9 ของปฏิญญาดังกล่าวที่ห้ามย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และจับกุมคุมขังตามอำเภอใจ อันถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ (crime against humanity) อีกด้วย

ผมเพียงแสดงความเห็นหรือติชมโดยสุจริตบนความหวังดีต่อบ้านเมือง จึงไม่ใช่เรื่องการท้าทายอำนาจของ คสช. และไม่ใช่การกระทำให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนเพื่อให้เกิดการก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร ผมต่อสู้แบบสันติและอหิงสาเพื่อต้องการให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์บนหลักนิติธรรม ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นถนนที่นำพาประเทศชาติไปสู่ความปรองดองอย่างยั่งยืน คสช. อาจใช้กำลังบังคับหรือคุมขังผมได้แต่จะเปลี่ยนความเชื่อและความศรัทธาที่ผมมีต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยไม่ได้

วัฒนา เมืองสุข

พรรคเพื่อไทย

17 เมษายน 2559