นายกฯลั่นไม่ใช่เวลานักการเมืองแจกของ ไล่ไปแจกน้ำแทน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทีมงานอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เตรียมนำกล่องยาสามัญประจำบ้านซึ่งติดสติ๊กเกอร์รูปนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุข้อความด้วยรักและห่วงใยไปแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ว่า ไม่ได้จับแค่รวบรวมเก็บไปไว้เฉยๆตอนนี้ยังไม่ควรแจกจ่ายอะไร ถ้ากรณีนี้เก็บ แต่อีกกรณีปล่อยก็จะมีปัญหาอีก แล้วทำไมต้องทำตอนนี้ไม่เห็นจำเป็น เอาไว้ตอนเป็นรัฐบาลค่อยแจกก็แล้วกัน ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาของตนเป็นปัญหาของคนทำ ตนไม่ได้รังแกข้างใดข้างหนึ่งทำทั้งสองข้าง คือไม่เลือกปฏิบัติ ทำไมไม่ชมตนตรงนี้บ้าง และต่อไปมีใครทำอีกจะเก็บอีก แล้วทำไมต้องให้เหตุผล เขาต้องให้เหตุผลกับตนว่าแจกทำไม ประชาชนเดือดร้อนมากหรืออย่างไร หรือประชาชนไม่มีขันน้ำอาบ ไม่มียา วันนี้สาธารณสุขเข้าถึงทุกพื้นที่ ถ้าประชาชนไม่มียาจริงก็ให้มาขอตน

“ทุกคนอยากสร้างประเด็นกันหมด สร้างความสำคัญกันทั้งหมด ทำไมมันใกล้เลือกตั้งหรืออย่างไร เดี๋ยวผมจะไล่เช็คตามไปเรื่อยๆ มันต้องมีการแจกอะไรไปเรื่อยๆ เชื่อผมสิ ยิ่งใกล้เลือกตั้งยิ่งหนักเข้าไปอีก คุณต้องเห็นใจผมบ้าง ผมต้องรักษาสภาพบ้านเมืองให้ปกติสุข เพราะพวกนี้ออกมา อีกพวกก็ออกมา มันก็ออกมาใหญ่โต แล้วมันจะไปกันอย่างไร ก็กลับที่เก่าหมด ไม่เสียดายเวลา ไม่เสียดายความสุขที่มีอยู่ทุกวันนี้หรือ ที่ไม่มีการประท้วง ทำไม นักข่าวโดนจำกัดอะไรก็ไม่มี ถ้ามีก็จำกัดไปนานแล้ว ห้ามนักข่าวเข้าทำเนียบฯ เขาทำกันแบบนั้นถ้าปฏิวัติ แต่ผมไม่เคยทำ ใครว่าอะไรมาผมก็พยายามอดทน แต่บางครั้งก็ให้เกียรติผมบ้าง ถ้าเรียกร้องอะไรที่ไม่ใช่เวลาผมก็ไม่ให้อยู่แล้ว” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเก็บกล่องยาของนายอภิสิทธิ์ เกี่ยวกับการทำประชามติที่จะมีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ตนบอกว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาแจกของ ไปแจกน้ำโน่น แล้วจะโยงให้ตนไปทะเลาะกับเขาทำไม ตนไม่อยากทะเลาะกับเขา บอกแล้วไงไม่ให้แจกก็จบ คำพูดตนคือกฎหมาย เข้าใจหรือยัง ปัดโธ่...หรือต้องออกเป็นม. 44 ห้ามแจกขันหรือห้ามแจกอะไรสักอย่าง

เมื่อถามว่า กรณีกล่องยาและขันแดงเกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รู้หรือไม่ว่าความมั่นคงคืออะไร คนตีกันคือความมั่นคงหรือไม่ คนแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ไอ้พวกนี้เดี๋ยวจะมาประท้วงไอ้พวกนี้ แล้วมาเล่นงานเจ้าหน้าที่ว่าทำไมปล่อยปละละเลย มันโดนทั้งขึ้นทั้งล่องแล้วมันจะทำทำไม แล้วจะไปขยายความให้เขาทำไม นี่แหละคือความมั่นคง ถามว่าสื่อเกี่ยวหรือไม่ สื่อก็เกี่ยวข้องด้วย ในเมื่อบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ก็จบ

“ผมไม่ได้กลัวขัน ผมกลัวคนตาย ไม่กลัวหรือไง ไม่ห่วงประชาชนหรือไง เกิดทะเลาะกันตีกันแล้วเอาปืนมายิงกันตายอีกจะว่าอย่างไร ใครรับผิดชอบ นั่นแหละสิ่งที่ผมห้าม คือสิ่งที่มันจะลุกลามบานปลายไปสู่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกลับไปเหมือนของเดิม แล้วไม่รู้จักเรียนรู้หรือไงว่ามันเกิดอะไรขึ้น คนไทยต้องเรียนรู้ ต้องพัฒนาตัวเอง ต้องมีความคิดแบบคนดีๆ เขาคิด เข้าใจไหม ไม่ได้คิดแต่จะหาปัญหามาต่อสู้กันทุกวัน แล้วตอนอยู่ทำไมไม่ทำความดีเล่า แล้ววันนี้พอทำความผิดขึ้นมาก็ต่อสู้ขอความเป็นธรรม มันเรื่องอะไรคุณต้องเข้าใจ” นายกฯ กล่าว