เปิดตัวโครงการบรรณสัญจร ขอรับบริจาคหนังสือส่งต่อชุมชน

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สื่อมวลชน อาทิ บริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ปฯลฯแถลงข่าวเปิดตัวโครงการบรรณสัญจรประจำปี 2559 (Book Voyage 2559) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี “เจ้าฟ้านักอ่าน” โอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เม.ย. และตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พ.ศ.2552 ได้กำหนดให้วันที่ 2 เม.ย.ของทุกปีเป็น“วันรักการอ่าน”

โดยดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานในการแถลงข่าวว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้เปิดเผยผลการสำรวจปี2558 พบว่าประชากรอายุตั้งแต่6ปีขึ้นไปใช้เวลาเฉลี่ยที่ใช้อ่านนอกเวลาเรียนนอกเวลาทำงานอยู่ที่ 66 นาทีต่อวัน หรือประมาณ1ชั่วโมง6นาที สำหรับกลุ่มเยาวชนใช้เวลาอ่านประมาณ 94 นาทีหรือราว 1 ชั่วโมง 34 นาทีต่อวัน สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาทีต่อวัน ทั้งนี้ผลสำรวจยังได้รายงานถึงประเภทเนื้อหาสาระที่ประชาชนชอบอ่านมากที่สุดคือข่าวและสารคดีทั่วไปร้อยละ 48.5 นอกนั้นเป็นประเภทบันเทิงและวิชาการตามลำดับ

“ ในส่วนของศธ.ได้มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาในทุกช่วงวัย และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการทำงานที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนอ่านหนังสือมากขึ้น โดยใช้ชุมชนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนจนเกิดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต จึงนำมาสู่การดำเนินโครงการบรรณสัญจรประจำปี2559 (Book Voyage 2559)ที่สำนักงานกศน.ได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือประชารัฐ เพื่อร่วมกันระดมสรรพกำลังในการขอรับบริจาคหนังสือ จำนวน 10 ล้านเล่ม ส่งไปยังหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ โดยเป้าหมายสำคัญคือ ต้องการปลุกกระแสการรักการอ่านของคนไทยให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ” 

ด้าน นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า ในชุมชน หนังสือถือเป็นสื่อที่ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงมากกว่าสื่อโซเชียลมีเดียในสังคมเมือง ที่ผ่านมาสำนักงาน กศน.ได้จัดตั้งบ้านหนังสือชุมชนปัจจุบันมีอยู่จำนวน 18,500 แห่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนเสียสละพื้นที่บางส่วนของบ้านตนเองให้เป็นพื้นที่ที่ให้สมาชิกในชุมชนมาอ่านหนังสือซึ่งมีทั้งวารสาร หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ซึ่งได้รับมาจากการบริจาคและสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่างๆ และปัจจุบันหนังสือยังเป็นที่ต้องการของชุมชนอีกจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หนังสือที่รับบริจาคในโครงการบรรณสัญจรนั้น สำนักงาน กศน.จะดำเนินการส่งไปยังแหล่งการเรียนรู้ทีมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 26,835 แห่งจำแนกเป็นห้องสมุดประชาชนจำนวน 911 แห่งได้แก่ห้องสมุดประชาชน“เฉลิมราชกุมารี” 94 แห่งห้องสมุดประชาชนจังหวัด 72 แห่งห้องสมุดประชาชนอำเภอ 745 แห่ง กศน.ตำบล 7,424 แห่งและบ้านหนังสือชุมชน 18,500 แห่ง นอกจากนี้กรณีผู้ที่สนใจร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้อหนังสือพิมพ์วารสารนิตยสารหรือประสงค์จะส่งมอบหนังสือดีมีคุณค่าให้กับชุมชนของตนเองหรือชุมชนใดเป็นพิเศษก็แจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์บ้านหนังสือชุมชน www.nfe.go.th/cbh ซึ่งสำนักงานกศน.จะรวบรวมข้อมูลและนำไปดำเนินการต่อไป

(ภาพ-kanu.ac.th)