ภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นซบเซาสุดรอบ5ปี

กระทรวงอุตสาหกรรม การค้า และเศรษฐกิจ ของญี่ปุ่น ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือน ก.พ. ลดลง 6.2% จากเดือนก่อนหน้านี้ ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.9% นับเป็นการลดลงมากที่สุด นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2554 ซึ่งในครั้งนั้นตัวเลขดิ่งลงถึง 16.5 % ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นยักษ์สึนามิ ที่กระหน่ำซัดสร้างความเสียหายในวงกว้างทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และต่อเนื่องไปสู่การชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานในระดับโลก

นางฮารุมิ ทากูจิ นักวิเคราะห์จากไอเอชเอส โกลบอล อินไซต์ กล่าวว่า ผลผลิตของเดือน ก.พ. เป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราวต่างๆ เช่น การปิดโรงงานของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างโตโยต้ามอเตอร์ รวมถึงความต้องการของตลาดที่ลดลงเนื่องมาจากช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน

ขณะที่สถานการณ์การผลิตในภาพรวม ยังคงซบเซาเนื่องจากยังมีปริมาณสินค้าคงคลังอยู่มาก ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งพยายามอย่างหนักในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อฉุดเศรษฐกิจญี่ปุ่นขึ้นจากสภาวะซบเซาของการจ้างงาน ภาวะเงินฝืด และการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องมานานหลายปี

อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้มาตรการนอกตำรา เช่นซื้อคืนพันธบัตรจำนวนมหาศาลโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือบีโอเจ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนตัว และทำให้การส่งออกมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะพยุงให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างคงเส้นคงวาได้