ปัญหามาตรการบัญชีชุดเดียว (3)

ปัญหามาตรการบัญชีชุดเดียว (3)

ขอนำประเด็นปัญหาการยกเว้นจากการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร

และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร สำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ตามพระราชกำหนดยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2558 และการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ผู้ประกอบการซึ่งเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558 มาปุจฉา -วิสัชนา ต่อจากสัปดาห์ก่อน ดังนี้ 

ปุจฉา การออกนโยบายนี้ กรมให้เวลาที่สั้นมาก เพียงแค่ 60 วัน เจ้าของธุรกิจที่ระแวงกรมสรรพากรอยู่แล้ว ก็ลังเลกันมาก ข้อมูลที่ได้จากกรมล้วนแต่เป็นข้อดี เอาแค่ข้อแรกยกเว้นการตรวจสอบก็กลับยิ่งทำให้ลังเลกันมากกว่าเดิม แถมเมื่อมีการสอบถามกับเจ้าหน้าที่กรมว่า..หลังจากเข้าร่วมนโยบายนี้แล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่บอกเหมือนกันหมดว่า...เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน...ซึ่งในทางปฏิบัติที่ผ่านมาล้วนแต่วิ่งไปคนละทิศละทาง

วิสัชนา กำหนดเวลา 60 วัน นับแต่วันที่ 15 มกราคม 2559 ถึง 15 มีนาคม 2559 ในการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการจัดทำบัญชีชุดเดียว ไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ แต่อย่างใดๆ หากผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจใช้ดุลพินิจเพิ่มสักนิด ก็จะเห็นซึ้งถึงเจตนาของการตราพระราชกำหนดฯ ฉบับนี้

1. ไม่เคยมีรัฐบาลใดกล้ากระทำการเยี่ยงนี้มาก่อน ออกกฎหมายคุ้มครองผู้ประกอบการที่ประกอบการต่อเนื่องมาก่อนปี 2558 ให้ได้รับการตรวจสอบ ไต่สวน ประเมิน หรือสั่งให้เสียภาษีอากร และความผิดทางอาญาตามประมวลรัษฎากร สำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ หรืออากรแสตมป์ ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559 ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข

2. นี่ไม่ใช่คำพูดของเด็กอมมือ หากแต่เป็น “นายกขวัญใจปวงชน” ในการปฏิรูปประเทศไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ชอบธรรม ที่นักการ (กวน) เมืองกลุ่มใดๆ ก็ไม่อาจที่จะกระทำได้ จึงไม่มีวันที่จะมาเสียคำพูดโดยการตราเป็นกฎหมายเช่นนี้ โดยเด็ดขาด

3. ผมเคยตั้งคำถามว่า “ข้อเสียอยู่ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เข้าร่วมจะมีระบบบัญชีที่เข้มแข็งอย่างแท้จริงหรือไม่ จะทำบัญชีที่ถูกต้อง (มีบัญชีเพียงชุดเดียว) จริงหรือไม่ เพราะจะเป็นต้นเหตุที่จะทำให้ถูกเพิกถอนสิทธิการได้รับยกเว้นการตรวจสอบไต่สวนฯ จากกรมสรรพากร หากคำตอบว่าจริงว่าใช่ก็เหลือแต่เพียงข้อดีเท่านั้นครับ

ปุจฉา เมื่อเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว สิ่งที่ต้องพบเจอแน่นอนคือ บทลงโทษที่รุนแรงและหนักหน่วงกว่าเดิมใช่หรือไม่

วิสัชนา ภาษีอากรที่กรมสรรพากรจัดเก็บ ทั้งภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ล้วนแล้วแต่เป็น “ภาษีอากรประเมิน” ซึ่งประกอบด้วยการยื่นรายการประเมินตนเองของต้องเสียหรือนำส่งภาษี และการประเมินความถูกต้อง และครบถ้วนของจำนวนเงินภาษีอากรที่ต้องเสียหรือนำส่ง และการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีอากร หากผู้ต้องเสียหรือนำส่งภาษีอากรไว้ถูกต้อง ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่กฎหมายกำหนดแล้ว อำนาจเจ้าพนักงานประเมินก็จะหายวับลงไปเลย ไม่อาจกระทำกระไรต่อผู้ประกอบการรายนั้นๆ ได้เลย นอกจากบริการที่ดีที่ต้องพึงให้ด้วยความเคารพรักเท่านั้น

ดังนั้น หากผู้ประกอบการจัดทำบัญชีชุดเดียวตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป โดยมีเอกสารหลักฐานประกอบการลงบัญชีโดยถูกต้องและครบถ้วนแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องไปสนใจใคร (มันผู้ใด) จนตลอดทั้งสิ้นแล ลงมือทำโลดเลยพี่ครับ ผมหนับหนุน ต่อไปจะได้มีชีวิตใหม่ทางภาษีอากรให้ถูกต้องและมีความสุขกันเสียที 

มาร่วมมือกันทำให้อำนาจเจ้าพนักงานสรรพากรฝ่อ โดยกระทำในส่วนที่ถูกต้อง ตามมาตรการบัญชีชุดเดียวกันเถิดครับ 

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ