'เอสซี แอสเสท' มั่นใจยอดขายปีนี้โต 20%

'เอสซี แอสเสท' มั่นใจยอดขายปีนี้โต 20%

"เอสซี แอสเสท" มั่นใจยอดขายปีนี้โต 20% อยู่ระดับ 1.5 หมื่นลบ. พร้อมลุยเปิด 10 โครงการใหม่ รวม 2.4 หมื่นลบ.

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นจะเติบโตตามแผนธุรกิจปี 59 ที่ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% โดยเป็นยอดขายและรายได้ 15,000 ล้านบาท พร้อมกับการเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 24,000 ล้านบาท

"ไตรมาสแรกเรามุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำบ้านหรูด้วยการเปิด 3 โครงการระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท มีคอนโดมิเนียม โครงการ BEATNIQ สุขุมวิท 32 กับคฤหาสน์ดีไซน์ใหม่ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ และ โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท พร้อมกัน 27-28 ก.พ.นี้ อย่างเป็นทางการ"นายณัฐพงศ์ กล่าว

ในปี 59 บริษัทมีคอนโดฯ พร้อมโอนทั้งหมด 6 โครงการ ได้แก่ โครงการเซ็นทริค ห้วยขวาง สเตชั่น บนพื้นที่กว่า 3-2-19 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกรัชดา-ห้วยขวาง ติด MRT ห้วยขวางเพียง 120 เมตร จำนวน 674 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท กับโครงการเซ็นทริค อารีย์สเตชั่น อยู่ในซอยอารีย์ 1 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์เพียง 380 เมตร บนพื้นที่กว่า 2-2-97 ไร่ จำนวน 516 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท พร้อมโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ อาทิ โครงการเซ็นทริค ซี พัทยา, โครงการเดอะ เครสท์ ซานโตรา หัวหิน เป็นต้น

ปัจจุบัน SC มีโครงการต่อเนื่องที่เปิดขายอยู่ทั้งหมด จำนวน 33 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือเพื่อขายรวมประมาณ 24,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 24 โครงการ และโครงการแนวสูง 9 โครงการ พร้อมกับยอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 58 ประมาณ 8,090 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 60%

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 58 บริษัทมีรายได้รวม 14,184 ล้านบาท เติบโต 12% จากปี 57 โดยเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 13,236 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 94% ของรายได้จากการดำเนินงาน และธุรกิจอาคารสำนักงาน ให้เช่าและบริการ 814 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของรายได้บริษัทฯ ส่วนยอดขายรวมเท่ากับ 12,516 ล้านบาท เติบโต 47% จากปี 57 มีกำไรสุทธิ 1,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปี 57 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 0.4535 บาท

"ผลการดำเนินงานที่ดีและการเติบโตในแต่ละไตรมาส มาจากการบริหารธุรกิจและกลยุทธ์ที่ปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ พร้อมกับให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพอยู่ตลอดเวลา" นายณัฐพงศ์ กล่าว