'สุรพงษ์' โต้ 'จิรชัย' ชี้จำนำข้าวผิด 3 กระทง

'สุรพงษ์' โต้ 'จิรชัย' ชี้จำนำข้าวผิด 3 กระทง

"สุรพงษ์" โต้ “จิรชัย” ชี้จำนำข้าวผิด 3 กระทง แค่พยายามปรักปรำเอาผิดแบบเอาเป็นเอาตายกับ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ดูหลักฐานข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางละเมิดในโครงการรับจำนำข้าว รีบออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่าโครงการจำนำข้าวทำความเสียหายอย่างไรบ้าง แม้ว่าการดำเนินนโยบายจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือว่าไม่ผิดก็ตาม และดูเหมือนกับว่านายจิรชัยคงจะถูกใครตำหนิติติงมา กรณีที่ให้ข่าวไปเมื่อวันที่11ก.พ.ที่ผ่านมา คงจะทำให้ใครบางคนไม่สบอารมณ์ นายจิรชัยจึงต้องรีบออกมาแก้ตัวว่าโครงการจำนำข้าวผิดแน่นอน 3 กระทง คือ กระทงแรก ทำให้ราคาข้าวบิดเบือนกลไกตลาด ทำให้พันธุ์ข้าวดีๆ เสียหายกลายพันธุ์ และทำให้เกิดวิกฤติน้ำเพราะใช้น้ำต้นทุนในเขื่อนไปมาก ซึ่งฟังคำชี้แจงของท่านแล้วก็รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ขบวนการทางความคิดและเหตุผลตรรกะที่ใช้ในการสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น เป็นอะไรที่ฟังแล้วไม่น่าจะเป็นข้อสรุปที่มีเหตุและมีผลได้เลย เนื่องจากการปลูกข้าวต้องใช้น้ำ และเมื่อรัฐบาลมีนโยบายรับจำนำข่าวเกิดขึ้น ชาวนาก็ต้องรีบแห่ปลูกข้าว และพันธุ์ข้าวที่ชาวนาใช้ในการเพาะปลูกก็เป็นสิทธิของชาวนาที่จะเลือกปลูกข้าวพันธุ์อะไรที่หน่วยงานรัฐกำหนดก็ได้ และชาวนาก็จะได้ราคาจำนำตามชนิดและผลผลิตของข้าวที่ใช้ปลูก และต้องขึ้นอยุ่กับความชื้นด้วย แต่ถ้าจะได้ราคาเกินความเป็นจริงก็ต้องมีการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับโรงสีและพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จับมือร่วมกันโกงเท่านั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์คงไม่รู้ได้ เพราะท่านไม่ได้ไปนั่งเฝ้าตอนเขารับจำนำที่หน้าโรงสี และการที่กรมชลประทานปล่อยน้ำจากเขื่อนลงคูคลองเพื่อให้ชาวนามีน้ำเพื่อใช้ทำนา หรือให้ประชาชนได้ใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค หรือใช้ผลักดันน้ำทะเลออกสู่อ่าวไทย เป็นเรื่องของการบริหารจัดการน้ำของอธิบดีกรมชลประทานที่ต้องกำกับดูแล คงไม่ใช่หน้าที่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ต้องไปยืนเฝ้าดูระดับน้ำอยู่หน้าเขื่อนว่าน้ำก้อนไหนใช้ทำนา หรือก้อนไหนใช้ไล่น้ำทะเล

สำหรับการกำหนดราคารับจำนำนั้น คงต้องรับจำนำในราคาที่นำตลาดหรือสูงกว่าราคาตลาด เพื่อยกระดับราคาซื้อขายในตลาดให้สูงขึ้นตาม คงไม่มีใครที่จะรับจำนำในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็คงไม่ได้ช่วยชาวนา และไม่มีชาวนาคนไหนคิดจะนำข้าวมาจำนำกับรัฐอย่างแน่นอน ที่ตนสรุปให้เห็นนี้คือหลักความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่คิดหาข้อสรุปขึ้นเองชนิดที่มีใบสั่งมาแล้วก็รีบกุลีกุจอทำตามใบสั่ง สำหรับกระทงที่ 2 ที่บอกว่ามีข้าวในโกดังหาย มีการเอานั่งร้านไปยัดไส้เอาไว้ตรงกลางกองข้าว และเห็นเพียงโกดังเดียวเท่านั้น ซึ่งการสูญหายของข้าวนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าของโกดัง กระทรวงพาณิชย์ อตก. อคส. และเซอร์เวย์เยอร์ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะมีสัญญาข้อตกลงร่วมกันอยู่ ถ้าเกิดการสูญหายหรือเสียหายใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ คงไม่ใช่หน้าที่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่จะต้องไปนั่งเฝ้าอยู่หน้าโกดังข้าวตลอด 24 ชั่วโมง และสัญญาจีทูจีก็เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่จะต้องดูแลความถูกต้องของสัญญาเอง คงไม่ใช่เรื่องที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะรับรู้ได้ เพราะท่านไม่ใช่คนลงนามในสัญญา

ส่วนกระทงที่ 3 เรื่องป.ป.ช.ท้วงติงโครงการจำนำข้าวมานั้น ก็รู้กันอยู่ว่าเป้าหมายของป.ป.ช.นั้นเป็นอย่างไร พอจะสรุปได้ว่า การสรุปว่าโครงการจำนำข้าวมีความผิดทั้ง 3 กระทงนั้น เรื่องง่ายๆ เช่นนี้เด็กป.4 ก็น่าจะให้คำตอบแก่ท่านได้ ไม่อยากเห็นวิธีการที่เอาแต่คิดพยายามที่จะปรักปรำกล่าวหาเอาผิดเอาเป็นเอาตายกับน.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่คนเดียวโดยไม่ลืมหูลืมตา ไม่ดูพยานหลักฐานข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนทุกๆ ด้าน อยากจะฝากถึงนายจิรชัยว่า ขอให้ช่วยกรุณาปฎิบัติหน้าที่ให้ตรงไปตรงมา ใครผิดใครถูกก็ว่ากันไป ใครจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงในแต่ละขั้นตอนในขบวนการรับจำนำข้าวก็ให้เอาคนผิดมารับโทษ แต่ขอร้องว่าอย่าใช้วิธีมั่วๆ มากล่าวหาคนแบบส่งเดชก็แล้วกัน ขอให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนด้วย อย่าคิดว่ามาตรา 44 จะปกป้องใครได้ถ้าทำผิด