ไขปริศนาลายยันต์บนแผ่นหลัง'แองเจลีนา โจลี'

ไขปริศนาลายยันต์บนแผ่นหลัง'แองเจลีนา โจลี'

ไขปริศนาลายยันต์บนแผ่นหลัง "แองเจลีนา โจลี" ที่อาจารย์หนูเป็นคนสักและลงอาคมให้

เป็นข่าวฮือฮาขึ้นในโลกโซเชียลมีเดียเมื่อปรากฏภาพ “แองเจลีนา โจลี” นักแสดงสาวชื่อดังจากฟากฟ้าฮอลลีวู้ดอวดรอยสักยันต์ใหม่ 3 แห่งบริเวณแผ่นหลัง โดยสื่อต่างประเทศต่างประโคมข่าวว่ารอยสักใหม่ของนางเอกสุดเซ็กซี่ว่ามาจากฝีมือของ “อาจารย์หนู กันภัย” อาจารย์สักยันต์ชื่อดังในประเทศไทยที่ลงทุนบินไปสักให้ที่ประเทศกัมพูชาระหว่างที่ดาราสาวและสามีหนุ่ม “แบรด พิตต์” กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง First They Killed My Father เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

การเพิ่มรอยสักใหม่ของ “โจลี” ถือเป็น “ครั้งที่ 3” ที่อาจารย์หนูเป็นคนสักและลงอาคมให้ โดยครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2546 โจลีเดินทางมาให้อาจารย์หนูสัก “ยันต์ 5 แถวหนุนดวง” ที่บริเวณหัวไหล่ซ้าย ซึ่งยันต์ 5 แถวมีความหมายเรื่องโชคลาภ ป้องกันอุบัติเหตุและแคล้วคลาดจากภัยต่างๆ

หลังจากนั้นประมาณอีก 1 ปี วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2557 โจลีหวนกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อให้อาจารย์หนูสักยันต์ลาย “มหายันต์เสือเหลียวหลัง” ที่เอวด้านหลัง

“มหายันต์เสือเหลียวหลัง” มีลักษณะทางศาสตร์และศิลป์ที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และอักขระเลขยันต์ หัวใจ “พยัคฆราชโพธิสัตว์” ซึ่งเรียกสูตรอักขระเลขยันต์ด้วยพระพุทธคุณหัวใจ “อิติปิโส” ประกอบด้วย หัวใจพระอินทร์ หัวใจพระพรหม หัวใจพระยม หัวใจพระกาฬ ปลุกเสกด้วยบุญญาฤทธิ์ บรรจุ ธาตุกำลังวัน เดือน ปีเกิด พระพุทธเจ้า

เสือเหลียวหลังปรางค์นี้จึงเป็นยันต์เสือชั้น มหาพรหม มีพุทธคุณวิเศษ สูงกว่ายันต์เสือทั่วไป

นอกจากนี้นางเอกดังชื่อก้องโลกยังให้อาจารย์หนูสักยันต์ “หัวใจมหาเศรษฐี” ขนาดกว้าง 20 ซม. ยาว 30 ซม. บิเวณกลางหลังเพื่อเสริมพุทธคุณอีกด้วย

ในครั้งนั้น แองเจลินา โจลี ให้เหตุผลของการเดินทางมาสักยันต์ว่า “หลังจากได้รับการสักจากอาจารย์หนู ครั้งแรกรู้สึกชีวิตดีขึ้น ชีวิตรุ่งโรจย์มีโชคลาภ" และในตอนนั้นโจลี่ยังเชิญอาจารย์หนูเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อสักยันต์แบบนี้ให้แก่เพื่อนนักแสดงจากฮอลลีวู้ด้วย

ส่วนลายยันต์ 3 แห่ง ซึ่งเป็นรอยสักใหม่ที่ปรากฎว่าบนแผ่นหลังของนางเอกสาวตามในโซเชีบลมีเดียนั้น

“อาจารย์หนู” อธิบายให้ “คมชัดลึก” ฟังว่า กรณีมีกระแสข่าวว่าอาจารย์ไปสักให้ โจลี่ และ แบรท พิทต์นั้น ส่วนตัวยังไม่ขอตอบตอนนี้ โดยภาพที่เผยแพร่ออกมาน่าจะมาจากสื่อต่างประเทศ ทั้งนี้หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวสื่อหลายสำนักฯพยายามสอบถามมา แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

อาจารย์หนูบอกว่า จากการที่เห็นในภาพรอยสักบนแผ่นหลังของนางเอกคนดัง อธิบายได้ว่า เป็นการ “สักยันต์แบบไทยโบราณ”  โดยบริเวณแผ่นหลังหลังด้านไหล่ซ้ายเป็น “ลายยันต์ฉัตรเพชร” เป็นยันต์ที่มีลักษณะเป็นแถวเรียงลงมาแบบเดียวกับยันต์ห้าแถว แต่มีจุดเด่นเพิ่มขึ้นมา คือ มีโครงตาข่ายเชื่อมกันระหว่างแถว ทั้งนี้โดยปกติทั่วไปนิยมสักยันต์ฉัตรเพชรไว้บริเวณไหล่

“พุทธคุณของ “ยันต์ฉัตรเพชร” มีคติความเชื่อว่า เรื่องครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัย ประกอบกิจการเจริญรุ่งเรือง โดดเด่นด้านโชคลาภการเงิน แก้ดวงชะตาที่ตกต่ำและเสริมดวง ยันต์ฉัตรเพชรค่ายกลนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานบริษัท ค้าขาย ผู้ที่มีบริวารเยอะ ลูกน้องเยอะ มียันต์นี้ไว้เป็นตาข่ายครอบคลุมป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ จึงเรียกได้ว่าเป็นตาข่ายเพชรหรือฉัตรเพชรนั่นเอง”

ส่วนลายยันต์บริเวณกลางหลังด้านบน คือ “ยันต์โภคทรัพย์” หรือ “หัวใจมหาเศรษฐี” เป็นรอยสักยันต์ที่มีพุทธคุณหนุนดวงไม่แพ้ใคร เด่นทางด้านโภคทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา มีไว้ไม่อดตาย ทำมาค้าขึ้น มีเมตตามหานิยม จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ทำการค้าและธุรกิจใหญ่ต่างๆ

นอกจากนี้ยังมี “ยันต์พระคาถาโบสถ์จักรพรรดิ”  เป็นลายยันต์ เฉพาะบุคคล เป็นการผูกดวงของคนนั้นให้เข้ากับลายยันต์ ซึ่งแต่ละคนจะสักไม่เหมือนกัน รูปแบบอาจจะคล้ายแต่ตำแหน่งของเลขยันต์จะไม่เหมือนกัน เป็นพุทธคุณหนุนดวงชะตา พลิกชีวิตให้เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไปในทางที่ดี ผูกดวงของครอบครัวตลอดจนชีวิตคู่ ทั้งครอบครัวให้มั่นคง รวมถึงการปกป้องคุ้มครองที่อยู่อาศัย นำพาครอบครัวฝ่าฝันอุปสรรค์ต่างๆ จนประสบผลสำเร็จทุกประการ

อาจารย์หนู บอกว่าเหตุที่ทำให้ แองเจลี่น่า โจลี่ ประสพความสำเร็จในชีวิตนั้น ไม่ใช่ว่าแค่สักยันต์เท่านั้น แต่เป็นเพราะโจลี่เป็นคนดี รักครอบครัวมีความโอบอ้อมอารีมาก ทุกครั้งที่เห็นข่าวของดาราผู้นี้ได้แต่ภาวนาให้แคล้วคลาดปลอดภัยเหมือนกับศิษย์คนอื่น และที่สำคัญโจลี่ไม่เคยลืมครูบาอาจารย์ ติดต่อกันมาโดยตลอด

“แองเจลี่น่า โจลี่ สัญญากับอาจารย์ว่า วันหนึ่งจะมากราบอาจารย์ที่สำนักฯในประเทศไทย ถึงเวลานั้นอาจารย์จะเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดของศิษย์คนนี้ อาจารย์ยังมีลูกศิษย์ซึ่งเป็นทั้งดาราไทยและดาราฮอลลีวูด ตลอดจนศิลปินอีกมากมาย หลายคนสักยันต์ไปแล้วชีวิตประสพผลสำเร็จก็ดีใจ ข้อสำคัญสักไปแล้วต้องไม่ลบหลู่ครูบาอาจารย์ ให้ความเคารพบิดามารดา ไม่ลบหลู่ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประพฤติตนเป็นคนดี ชีวิตก็จะเจริญรุ่งเรืองทุกคน” อ.หนูกล่าว

ทั้งนี้ทุกครั้งที่ชาวต่างชาติมาสักยันต์จะพยายามเล่าประวัติเกี่ยวกับการสักยันต์ ให้ฟังว่า เมืองไทยสมัยก่อนสงครามโลก ได้เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายร้อยปี เริ่มมาตั้งแต่คนในสมัยก่อน จะใช้วิชาอาคมเหล่านี้ป้องกันภัย หรือศัตรูที่จะมาปองร้าย ยิ่งสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะมีเรื่องของการสักยันต์ที่ใช้ในการกอบกู้บ้านเมือง คำมั่นสัญญาที่มีต่อผู้ที่มาสักยันต์จะต้องนับถือศาสนาพุทธ

"ก่อนสักยันต์ทุกครั้ง คนที่จะมาสักจะต้องนับถือศาสนาพุทธ ตามตำราของการสักยันต์ที่ได้อ้างอิงเอาไว้ หากใครรับปากว่า จะทำตามระเบียบที่วางเอาไว้ก็จะสักยันต์ให้ โดยความขลังของยันต์อาจารย์หนู อยู่ที่ข้อห้ามและข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ1.ไม่เป็นคนเจ้าชู้กับเมียใคร 2.ไม่ด่าว่าพ่อแม่ของใครๆ โดยเด็ดขาด 3.ไม่ทำลายพระพุทธศาสนา 4.ไม่ลบหลู่บิดามารดา เวลาท่านต่อว่า

5.ไม่เสพสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายทุกประเภท6.ห้ามไม่ให้เป็นคนผิดในศีลธรรม7.ห้ามเป็นนักเลงหัวไม้และ 8.ห้ามตีรันฟันแทงกับใครอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ต้องหมั่นสวดมนต์ภาวนาอยู่เป็นประจำทุกๆ วัน หลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว ขอให้นั่งสมาธิ ฝึกจิต ประมาณวันละ 15 - 20 นาที จากนั้นต้องมตตาให้บิดามารดา และเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ลูกศิษย์ที่สักยันต์แล้วหากปฏิบัติตามได้ก็จะเป็นคนอยู่ยงคงกระพันชาตรี ไม่มีอะไรทำร้ายได้ แต่ถ้าลูกศิษย์คนใดผิดศีล ไม่ปฏิบัติตาม ลายสักยันต์จะเป็นเพียงรูปวาดบนผิวหนังเท่านั้น” อ.หนูกล่าว

จากผลพวงการสักยันต์ให้ แองเจลินา โจลี ทำให้ปัจจุบันมีชาวต่างชาติได้เชิญ อ.หนู ไปสักยันต์ ลงนะหน้าทองกันเป็นจำนวนมาก แม้ว่าประชาชนในประเทศนั้นๆ ส่วนใหญ่จะนับถืออย่างอื่น เมื่อเดินทางไปถึงประเทศนั้น มีทั้งดารานักแสดงและประชาชนที่รู้ข่าวต่างเดินทางเข้ามาให้สักยันต์กันเป็นจำนวนมาก